[HQ] BamBam - Sudsapda Magazine No. 832 (สัมภาษณ์)

วันที่ 2017-07-23 14:54:00 ผู้เข้าชม : 26710

-->
<--

สุดสัปดาห์ แบมแบม ฉ.832 (1 ตุลาคม 2017)
Mark Sudsapda
(สำหรับมือถือหมุนอ่านแบบแนวนอน)


Eng Sub --> http://twitter.com/haetbitmark/status/913040197910007808




ทักทาย

เราเชื่อว่า นี่คือ สุดสัปดาห์
ปกที่นายแบบสีผมสดที่สุดตั้งแต่ก่อตั้งนิตยสารมา
และเป็นสีที่มีอนุภาพทำลายล้างสูงมากเมื่ออยู่กับ "แบมแบม GOT7"
พวกเราสนุกในการทำงานกับหนุ่มน้อยคนนี้ด้วยสองเหตุผล หนึ่งคือ
อัธยาศัยน่ารักแบบไทย สองคือ ความมืออาชีพระดับอินเตอร์ และถ้าจะมี
คำชื่นชมใดเกี่ยวกับ สุดสัปดาห์ เล่มนี้ ขอบอกเลยว่าเกินครึ่งมากจากความ
ร่วมมืออย่างดีจากต้นสังกัดและศิลปินนี่เอง

สำหรับคุณผู้อ่านที่อาจจะสงสัยว่าหนุ่มน้อยผมแดงคนนี้เป็นใคร บางคน
อาจจะเคยได้ยินชื่อแต่ไม่เคยสัมผัสตัวตนของเขา ขอแนะนำว่าให้ลองอ่าน
สัมภาษณ์ตลอดจนเรื่องราวของเขา Talk-A-Tive และ Scoop นะคะ

เราไม่อยากใช้คำโฆษณาชวนเชื่อประเภทที่ว่า "อ่านจบแล้วคุณจะรักเขา
มากขึ้น / รักเขาแน่นอน" หรืออะไรทำนองนั้น ขอแค่คำพูดจากความรู้สึกจริงๆ
ละกันว่า "เมื่ออ่านจบแล้วคุณจะจดจำ 'แบมแบม GOT7' ไปอีกนาน-น-น
เลยทีเดียว" (ไม่นับตอนเขาเปลี่ยนลุคไปทำสีผมอื่นอะนะ)
Welcome to BamBam Zone ค่ะ

twitter : @sudsapda
instagram : @sudsapda
facebook : @sudsapdafanclub
E-magazine Download : NaiinPANN/
App StoreGoogle Play/Window
mebmarket/bambam
website : sudsapda.com


Colorful BamBam

ย่างเข้าหน้าหนาวปีนี้ สุดฯ มีเซอร์ไพรส์ด้วยการพาหนุ่มน้อย
สัญชาติไทยที่ไปดังไกลถึงเกาหลี แบมแบม - กันต์พิมุกต์ ภุวกุล
หรือ แบมแบม GOT7 บินข้ามน้ำข้ามทะเลกลับมาสร้างความอบอุ่น
ให้หัวใจแฟนคลับเปล่งประกายเจิดจ้าไม่แพ้สีผมของเขาเลยทีเดียว

พอถึงเวลานัดหมาย แบมแบมก็ปรากฏกายพร้อมผมสีแดงเพลิง
และรอยยิ้มสดใส ไม่ลืมยกมือไหว้สวัสดีพี่ ๆ ทีมงานประสาเด็กไทย
มารยาทงาม ก่อนจะขอตัวไปแต่งหน้าแต่งตัวให้พร้อมทำงาน
ด้วยท่าทีอ่อนน้อมแบบสุด ๆ น่ารักอย่างนี้นี่เอง แฟน ๆ และแม่ ๆ
อากาเซ ถึงหลงรักหนักมาก นี่แค่ได้เจอแว่บแรก สุดฯ ยังยัง
ห้ามใจอดปลื้มไม่ไหวเลย

หลังจากที่เปลี่ยนเสื้อผ้าออกมาเป็นชุดแรกกับสเวตเตอร์ลายกราฟฟิก
สีพาสเทลผสมเอิร์ธโทนน่ารักใส ๆ นายแบบก็รีบเข้าฉากพร้อมกับ
โพสท่าให้ถ่ายรูปเท่ ๆ อย่างไหลลื่นจนช่างภาพและสไตลิสต์แทบจะ
ไม่ต้องอธิบาย เสียงชัตเตอร์ลั่นไม่กี่ทีก็ถ่ายภาพชุดแรกอย่างรวดเร็ว
ก่อนจะถึงคิวเปลี่ยนอีกชุดมาถ่ายต่ออย่างคล่องแคล่ว เหลือบไปดูเวลา
ทีมงานถึงกับยิ้มกันเลยทีเดียวเพราะน่าจะถ่ายเสร็จเร็วกว่าที่คิดไว้เยอะ
มีเวลาให้ทีสัมภาษณ์คุยต่ออย่างจุใจเลยละ



พอเปลี่ยนมาถ่ายกับฉากสีแดงสดก็เข้ากั๊นเข้ากันกับสีผมใหม่ล่าสุด
ของแบมแบม (ณ ขณะนั้น) แถมชุดของ Gucci ก็แรงใช่ย่อย
แม้จะเป็นสีกากีแต่ก็เป็นแถบสีเขียงแดงสัญญาลักษณ์ของ
แบรนด์มาช่วยสร้างสีสัน



อีกชุดยิ่งแรงกว่าด้วยเชิ๊ตสีเขียวสด
กับโค้ตสีแดงเลือดนก ยิ่งอยู่กับแบมแบมที่เพิ่งทำผม
สีแดงเพลิงมาด้วยแล้ว ผสมผสานออกมาเป็นความเก๋
ที่ยากจะมีใครเหมือน



แต่ถ้าเน้นสีสันอย่างเดียวก็กลัวว่า
จะแสบตาจนเกินไป ช่วงท้ายของการถ่ายแฟชั่นเซตนี้
สไตลิสต์จึงขอปรับโหมดเปลี่ยนมาเป็นแนว ทึม ๆ ดาร์ก ๆ
กันบ้างในชุดเสื้อสเวตเตอร์สีดำ กางเกงสีดำ งานนี้
แบมถึงกับยิ้มร่า เมื่อได้นำน้อง Chanel's Gabrielle Hobo Bag
สุดหวงมาร่วมเฟรมด้วย เรียกว่าชุดนี้ต้องยอมให้สีผม
และกระเป๋าใบโปรดที่โดดเด่นแย่งซีนไปเต็ม ๆ

ช็อตสุดท้ายของวัน ช่างภาพขอเปลี่ยนมุมมองให้เแบมแบมนอนราบบนพื้น
กันเลย ไม่รู้ว่าเพราะเพลียจากการตื่นเช้าหรือเพราะแอร์เย็น ๆ ในสตูดิโอ มักเน่
ของ GOT7 ที่นอนฮัมเพลงอยู่ดี ๆ จู่ ๆ ก็เงียบและนิ่งไป จนทีมงานต้อง
กระซิบถามว่า "ไม่ใช่แอบหลับอยู่ใช่ไหมลูก" ทำเอาแบมแบมลุกมาถ่ายต่อแทบ
ไม่ทัน ขอบอกว่าวันนั้นเป็นการถ่ายแฟนชั่นเซตปกที่เสร็จเร็วกว่ากำหนดแถม
ทุกฝ่ายยังแฮ็ปปี้ งานนี้ต้องยกความดีความชอบให้หนุ่มน้อยนายแบบที่ช่วย
ให้ทุกคนทำงานได้อย่างรวดเร็วและราบรื่น ทางทีมงานจึงสั่งส้มตำปูปลาร้า
พริกสองเม็ดพร้อมกับไข่ปลาหมึกย่างน้ำจิ้มรสเด็ดเมนูโปรดมาเป็นของรางวัล
นายแบบของเรายิ้มกว้างพร้อมกับยกมือไหว้ขอบคุณอย่างสวยงาม บอกลา
การทำงานวันนี้ด้วยความแซ่บในแบบฉบับของแบมแบมครับผม


http://www.sudsapda.com/men/undercover-bambam/

IDENTIFY HIM  เจาะให้รู้จัก แบมแบม

คนเราจะรักใคร ย่อมต้องมีเหตุแห่งรัก หลายครั้งเมื่อเห็นใครสักคน
หลายคน หรือเป็นหมื่นเป็นแสนหลงใหลได้ปลื้มใครคนใดคนหนึ่ง
ที่เราไม่รู้จักมักจี่มาก่อนเรามักมีคำถามต่อการแสดงซึ่งความรักนั้น
โดยเฉพาะเมื่อฝ่ายที่ถูกทุ่มเทความรักให้เป็นศิลปินมีชื่อเสียง

ทำไมต้องเฝ้าจอในวันเปิดขายบัตรคอนเสิร์ตวันแรก ทำไมต้องอดนอน
ทนร้อน ทนฝน เพื่อได้อยู่แถวหน้าวันที่ศิลปินคนนั้นปรากฏตัวหน้าเวที
ในอีเว้นต์อะไรสักอย่าง ทำไมต้องไปเฝ้ารอที่สนามบิน ตามไปโรงแรม
ที่พัก คำตอบที่ดีที่สุดของคำถามต่าง ๆ นานานี้จะได้รับการเฉลยเมื่อ
คุณได้ตกหลุมรักคนที่เขาเหล่านั้นรัก เรื่องบางเรื่องสมองอาจต้อง
พักการทำหน้าที่ แล้วปล่อยให้หัวใจได้ดำเนินต่อ...

สารภาพอย่างไม่กลัวเหล่าอากาเซเคืองว่าก่อนหน้านี้ผมรู้จัก
แค่ว่า แบมแบม - กันต์พิมุกต์ ภูวกุล คือหนึ่งในศิลปินไทยไม่กี่
คนที่ได้ทำงานในฐานะศิลปินในแดนโสม มีชื่อเสียงโด่งดังและมีงาน
เพลงที่ได้รับความนิยม ถูกรับเลือกเป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้าหลายตัว

การสัมภาษณ์ศิลปินจากต่างแดนแม้จะมีสายเลือดไทยทำให้
ตื่นเต้นกว่าปกติ และตื่นเต้นไปถึงนาทีที่ต้องสัมภาษณ์แล้ว
รายล้อมด้วยทีมงานนับสิบ แต่ความประหม่ากลับมลายไปเมื่อ
เขาคนนี้เปิดปาก ความน่ารัก ความเป็นกันเอง การแสดง
ความคิดเห็นแบบที่มีสมองของตนเองผสมอยู่ด้วยในทุกคำถาม
นั้นถือเป็นหนึ่งในคำตอบที่ดีว่าทำไมเหล่าอากาเซถึงหลงรัก
เมมเบอร์แห่งวง GOT7 คนนี้เหลือเกิน

ปีนี้น่าจะเป็นอีกปีที่มีความสุขเพราะได้กลับไทยบ่อยจาก
การทัวร์คอนเสิร์ต GOT7 THAILAND TOUR 2017

ใช่ครับ ได้กลับทุกเดือนเลย (ยิ้ม) เทียบกับตอนเดบิวต์ช่วงสอง
ปีแรกแทบไม่ได้กลับ การทำงานที่ไทยไม่เหมือนที่เกาหลีที่เป็น
อีกแบบหนึ่ง แต่สนุกเหมือนกัน

ที่ว่าไม่เหมือน เช่น...
คน การทำงาน ประเพณีก็ต่างกัน ถ้าทำงานสไตล์เดียว
อย่างเดียวก็จะเบื่อ ต้องเปลี่ยนสไตล์บ้าง สนุกกว่า แต่อย่างที่บอกว่า
ปีนี้ได้กลับบ้านบ่อย พอจะคิดถึง ๆ ก็ได้กลับบ้าน

ปกติมีวิธีแก้คิดถึงบ้านอย่างไร
ก็ทำอะไรที่ไม่ทำให้คิดถึง เช่น ไปเที่ยวกับเพื่อน คุยกับเพื่อน
หรือไม่ก็ไปเต้น ๆ ร้อง ๆ ซ้อม ๆ ตอนนี้ก็มีอะไรที่ยุ่ง พอยุ่งมาก ๆ
ก็ทำให้ลืมความคิดถึงไปได้ครับ

เวลากลับเมืองไทย ชอบทำอะไรครับ
ปกติผมจะบินถึงเมืองไทยประมาณเที่ยงคืนตีหนึ่ง สิ่งที่มักจะ
ทำคือไปกินข้าวต้มตอนกลางคืน เป็นร้านข้าวต้มแถวบ้าน ไปทั้ง
ครอบครัว เวลานั้นก็ไม่ค่อยมีคนแล้ว ผมชอบกินข้าวต้มที่มีกับ
อะครับ พวกกระเพาะปลา ยำแคบหมู ผักบุ้งไฟแดง ลาบ

ถ้าอยู่ๆมีเวลาว่างให้หนึ่งอาทิตย์ จะเอาเวลานั้นไปทำอะไร
ผมคงนั่งเครื่องบินไปไหนสักที่เพื่อถ่ายวิดีโอ ตอนนี้ผมชอบ
ถ่ายวิดีโอและชอบตัดต่อ อาจจะไปฮาวายหรือมัลดีฟส์ครับ
ผมชอบทะเล ไปที่นี่แล้วสามารถ Sky Diving ได้ ได้นั่งเรือ
นอนพักผ่อนในรีสอร์ต




ซึ่งเคยไปมาแล้ว
ยังครับ ถ้าเป็นทะเลที่ดีที่สุดที่ผมเคยไปมา ก็คือภูเก็ต 
ไปมาเมื่อสองอาทิตย์ที่แล้วก่อนที่เราจะมาเจอกันวันนี้
เวลาไปทะเลผมชอบว่ายน้ำตื่นมาแล้วเปิดกระจกทุกบาน
ที่รีสอร์ตเพื่อให้ลมทะเลพัดเข้ามา เปิดเพลงดัง ๆ ถ่ายคลิป
โน่นนี่เดินบนหาด ชอบทำอะไรชิล ๆ

พูดถึงการถ่ายคลิป มีคนชมว่าแบมแบมทำได้ดีเลย
เริ่มแรกผมใช้มือถือถ่ายก่อน พอมันสนุกขึ้น
ก็ชื้อกล้องและโดรนมาถ่าย ก็สนุกดี หลังจากที่
เริ่มทำคลิป ทางค่ายเห็นก็ส่งงานมาให้ผมทำ
เป็นคลิปคอนเสิร์ต อย่างคอนเสิร์ตที่ญี่ปุ่นผมก็ทำ
ในดีวีดีของญี่ปุ่นจะได้เห็นอีกคลิปที่ผมทำ เป็น
Behind the Scence

ไปเรียนรู้วิธีทำคลิปมาจากไหน
ยูทูบครับ ผมใช้โปรแกรม Adobe Premiere Pro
ในนั้นเขาจะสอนวิธี เช่น อยากให้เอฟเฟ็กต์
เป็นแบบนี้ต้องทำอย่างไร ผมก็เปิดมือถือดูแล้วทำ
ในคอมพ์ ในนั้นมีสอนทุกอย่าง

คลิปไหนที่พูดได้ว่า Proudly Present ชอบที่สุด
คลิปที่ญี่ปุ่น ในอินสตาแกรมความยาวมัน
ลงได้แค่ประมาณ 1 นาที แต่คลิปที่ผมว่านี้คือ
ทั้งเพลงในอัลบั้มของพวกผม ความยาวประมาณ
3 นาทีกับอีก 30 วิ ต้องถ่ายอะไรเยอะพอสมควร
สามารถดูได้ในคอนเสิร์ต แล้วปีหน้าก็จะมีดีวีดี
ที่บอกออกมา

กลับมาเมืองไทย ได้อยู่กับครอบครัว
ที่ถูกเมาท์ว่าแบมแบมช่างถามจนแม่
ขี้เกียจตอบนั่นจริงหรือไม่จริงครับ

ช่างถาม..

พูดเก่ง
อ๋อ (เสียงสูง) เวลาอยู่คนเดียวผมก็ไม่ค่อยพูดนะ

ถ้าอยู่คนเดียวแล้วพูดก็อาการหนักนะ
(หัวเราะ) แหม ก็พูดไม่เยอะหรอกครับ ถ้า
ใครถามผมก็ตอบ แต่ถ้าไม่ถามผมก็อยู่เฉย ๆ แต่
กับคุณแม่ สมมุติว่าเริ่มพูดเรื่องนี้ แต่ตอนจบ
มันจะไปโน่น...คือคนละเรื่องกับตอนที่เริ่มแค่นั้นเอง

รู้ไหมว่าคุณแม่เมาท์แบมแบมไว้อย่างไรบ้าง
ไม่เรียกว่าเมาท์ครับ เรียกว่าเผา (หัวเราะ)
ก็เผาเยอะนะ อย่างตอนไปสนามบิน ก็รู้ว่าต้อง
โดนถ่ายรูป แล้วรูปมันก็จะออกมาแบบว่า ผม
กำลังหัวเราะอยู่หรือมีเก๊กบ้าง พอแฟนคลับ
เอารูปที่ถ่ายไปให้คุณแม่ดู คุณแม่ก็บอกว่า "ไม่
เห็นเหรอว่ามันเก๊กอยู่" หรือเวลาผมจะไปซื้อของ
มาใหม่ คุณแม่ก็จะเอาไปพูดว่า "เนี่ย ก่อนซื้อ
มันโทร.หาแม่สิบกว่ารอบว่าเอาอันไหนดี" คือ
รู้เบื้องหลังของผมหมด

อย่างที่บอกว่าเพิ่งผ่านการทัวร์สี่ภาค
ในเมืองไทยไป เล่าถึงความสนุกจากการ
ทัวร์ครั้งนี้ให้ฟังหน่อย

ความสนุกอยู่ที่เป็นการทัวร์ในบ้านเกิด เอา
จริง ๆ บางจังหวัดผมก็ไม่เคยไปมาก่อน อย่าง
ภูเก็ตผมเคยไปตั้งแต่ตอนอายุแค่ 3 ขวบ โคราช
ผมก็เพิ่งไปครั้งแรก แต่ไม่ว่าไปจังหวัดไหนผม
ก็ชินกับอากาศ อาหาร และผู้คน ทำอะไร
ก็สบายใจไปหมด ตอนขึ้นโชว์ก็สบายใจ ผมรู้ว่า
ประเพณีไทยเป็นอย่างไร ช่วงนี้อะไรกำลังฮิต
หรือคำไหนที่ฮิต

เวลาผมสอนคำไทยแท้เมมเบอร์ก็จะเป็นคำใหม่ ๆ
ไม่ใช่คำที่เขาใช้กันบ่อย ๆ อย่าง "ฉันรักคุณ"
"อาหารไทยอร่อย" แต่จะสอนคำแปลก ๆ เช่น
อย่ามโน งงเด้ ๆ ตะมุตะมิ ตอนที่มาครั้งแรก ๆ
ผมก็สอนคำว่า "มีถั่วมั้ย" คนดูก็จะงงว่านักร้อง
เกาหลีพูดคำแบบนี้ด้วยเหรอ ผมอยากทำอะไร
ที่เขาคิดไม่ถึง ผมเคยสอนเมมเบอร์ผวนคำด้วย
เช่น คำว่า "เจอเป็นของไธ ใจเป็นของเธอ" 
ทำให้ทัวร์รอบนี้สนุก ไปแต่ละจังหวัดก็จะสอนให้
เมมเบอร์พูดคำของจังหวัดนั้นหรืือภาคนั้นด้วย

จังหวัดที่เราเริ่มการทัวร์เป็นจังหวัดแรกคือโคราช
(จังหวัดนครราชสีมา) ก็รู้สึกตื่นเต้นหน่อย
ไม่ใช่แค่ผม แต่รวมถึงทีมงานที่จัดคอนเสิร์ตด้วย
กลัวว่าระบบจะผิดพลาด กลัวเต้นผิด แต่ก็ทำ
ออกมาได้ดีและแฟนคลับชอบ ทำให้พอไปที่ที่สอง
คือเชียงใหม่เลยวางใจและสนุกมากขึ้น ส่วนที่
กรุงเทพฯก็ใหญ่หน่อย รู้สึกกดดันนิดหนึ่ง แล้ว
ผมเป็นพิธีกรด้วย ก็คิดว่าเราจะเอาคนหนึ่งหมื่น
ห้าพันคนอยู่มั้ย จริง ๆ คอนเสิร์ตรอบแรกที่กรุงเทพฯ
ผมแอบเสียดายนิดหนึ่ง คิดว่าตัวเองน่าจะทำได้ดี
กว่านั้น แต่วันที่สองผมว่าโอเคมาก ๆ ทุกคนคุย
กันสนุก สภาพร่างกายโอเค ร้องดี เต้นไม่ผิด
ระบบก็ไมมีผิดพลาด คือดีไปหมด

ส่วนสุดท้ายที่ภูเก็ต ผมโล่งใจแล้ว คิดว่าเอา
ให้แฮ็ปปี้เอนดิ้งเลยดีกว่า เพราะทัวร์แบบนี้ไม่รู้ว่า
จะมีอีกเมื่อไหร่ วันนั้นเลยเต็มที่กันมาก แล้วก่อน
วันโชว์เราได้พักผ่อนที่ภูเก็ตมาวันหนึ่ง เหมือนได้
ชาร์จแบตเต็มที่ พอถึงวันโชว์เลยปล่อยทุกอย่าง
ที่มีออกมาหมด

ที่บอกว่าเป็นพิธีกรบนเวทีนี่ต้องทำอะไรบ้าง
ต้องโยงระหว่างเมมเบอร์ที่พูดไทยไม่ได้กับ
แฟนคลับที่พูดเกาหลีไม่ได้ให้เข้าใจกัน คนที่อยู่
ตรงกลางจะมีแค่ผมกับพี่ล่าม ผมต้องทำให้
แฟนคลับรู้ว่าตอนนั้นในวงกำลังพูดอะไรกันอยู่
อยู่ในสถานการณ์อะไร และทำให้เมมเบอร์รู้ว่า
แฟนคลับเข้าใจสถานการณ์นั้นไหม อธิบายว่า
เกมนี้เล่นยังไง อธิบายว่าเพลงต่อไปเป็นเพลงอะไร
หรือที่ร้องเพลงไทยเพลงนี้เพราะอะไร

พูดถึงการพูดภาษาไทย เมมเบอร์คน
ไหนที่แบมแบมคิดว่ามีทักษะในการพูด
ภาษาไทยดีกว่าคนอื่น

ผมว่าน่าจะเป็นพี่จินยอง เขาเรียนรู้เร็วและพูด
ชัด สอนอะไรไปนานแล้ว แต่พอขึ้นเวทีอยู่ ๆ
เขาก็เอาคำนั้นกลับมาใช้ อย่างคำว่า "จริงหรอ ๆ"
เขาก็ใช้ บางทีเขาไม่รู้หรอกว่าผมพูดอะไรอยู่ อยู่ ๆ
เขาก็จะ "จริงหรอ ๆ" (หัวเราะ)

สิ่งที่แบมแบมมักจะทำก่อนขึ้นคอนเสิร์ต
ฟังเพลงครับ ผมจะใส่หูฟังจนกว่าจะถึง
เวลาขึ้นคอนเสิร์ต ชอบฟังเพลงเร็ว ๆ หลังจาก
แต่งหน้าเสร็จช่วงก่อนขึ้นคอนเสิร์ตจะมีเวลา
ประมาณสองชั่วโมง แอร์เย็น ก็ทำให้ง่วง เลย
ต้องฟังเพลงเร็วและเดินไปเดินมาให้คึกตลอดเวลา

ในบรรดาเวิลด์ทัวร์ที่ผ่านมา โดยส่วนตัว
แล้วชอบครั้งไหนที่สุดครับ

น่าจะเป็นคอนเสิร์ตที่กรุงเทพฯครั้งที่สองกับ
คอนเสิร์ตล่าสุดที่ญี่ปุ่นทั้งสองวัน บางที่พอโชว์เสร็จ
แล้วเดินลงมาจะรู้สึกเหมือนเรายังทำได้ไม่เต็มที่
"ทำไมถึงทำได้แค่นี้ เราน่าจะทำได้ดีกว่านี้" แต่
สองคอนเสิร์ตที่บอก พอเดินลงมาแล้วรู้สึกว่า
นี่คือที่สุดของเราแล้ว ไม่รู้สึกว่ามีอะไรผิดพลาด
หรือทำให้เสียดาย แฟนคลับก็ชอบ สรุปว่าดีไป
หมด ขอบคุณตัวเอง ปรบมือให้ตัวเองเลย

เคยเจอเหตุสุดวิสัยขณะแสดงคอนเสิร์ตไหมครับ
เป้าขาด (หัวเราะ) บ่อยด้วยครับ ที่จำได้คือ
ที่ไต้หวัน พอขาดปุ๊บมันมีวิธีแก้ครับ ปกติเวลาขึ้น
คอนเสิร์ตผมจะใส่หูฟัง พอเป้าขาดผมก็จะแกล้ง
ทำเป็นว่าหูฟังมีปัญหาแล้วเดินไปหลังเวทีเพื่อ
เปลี่ยนกางเกง

คนดูไม่รู้...
ผมว่าน่าจะไม่รู้นะเพราะไม่มีรูปออกมา (หัวเราะ)
กางเกงที่ใส่มันไม่ยืด ขณะที่ท่าเต้นมันผาดโผน
เวลากระโดดสูง ๆ หรือแยกขาเยอะ ๆ มันจะขาด

ลืมเนื้อเพลง...
ไม่บ่อยครับ ถ้าลืมจริง ๆ ก็จะยื่นไมค์ไปให้
แฟนคลับช่วยร้องจนกว่าจะจำเนื้อได้ ร้อง ๆ อยู่
แล้วเรอออกมาก็มี เพราะเพิ่งกินข้าวเสร็จ

ในฐานะเจ้าบ้าน เมื่อต้องมาทัวร์คอนเสิร์ต
เมืองไทย ต้องเตรียมการต้อนรับเพื่อน
ร่วมวงอย่างไรบ้าง

ไม่ได้เตรียมตัวอะไรมากครับ มีแค่ตอนอัดเพลง
ไทย ผมต้องเป็นคนอัดให้ทุกคนรวมถึงตัวเอง
สอนเขาว่าคำนี้พูดอย่างไร สำเนียงเป็นอย่างไร
หรือท่อนนี้เป็นท่อนที่แฟนคลับร้องกับเราได้ก็ให้
ยื่นไมค์ออกไปพร้อมกัน จะมีการเตี๊ยมกันไว้ก่อน
ส่วนเพลงที่เหลือที่เป็นเพลงของ GOT7 เรารู้กัน
อยู่แล้วก็ไม่มีปัญหาอะไร นอกจากนี้ก็อธิบายเรื่อง
เวทีที่อิมแพ็ค อารีน่า ว่าลักษณะประมาณไหน
แต่ละเวทีก็จะไม่เหมือนกัน

เพื่อนๆในวงรู้จักกันมา...
7 ปีแล้วครับ ตั้งแต่ผมไปที่นั่น



ถ้าให้พูดถึงเมมเบอร์โดยเปรียบเทียบ
ความรู้สึก Before กับ After

คนที่เหมือนเดิมตั้งแต่ตอนแรกจนถึงตอนนี้มี
อยู่สองคนคือพี่มาร์คกับยูคยอม ตอนนั้นเป็น
อย่างไร ตอนนี้ก็ยังเป็นอย่างนั้น มีชื่อเสียงแล้ว
แต่ก็ยังทำเหมือนเดิม อย่าง พี่มาร์ค ไม่ชอบพูด
จะพูดอะไรต่อเมื่อมันจำเป็นต้องพูดจริง ๆ ตอนนี้
ก็ยังเป็นแบบนั้น ไม่เหมือนผมกับยูคยอมที่พูดเก่ง
อย่างไรก็อย่างนั้น (หัวเราะ)

ยูคยอม น้องเล็กของวง เราอยู่ด้วยกันตั้งแต่
เป็นเด็กฝึก นอนห้องเดียวกัน ไปกินข้าวด้วยกัน
อาบน้ำด้วยกัน ไปบริษัทด้วยกัน เรียนเต้นด้วยกัน
ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันแบบนี้มาประมาณ 3 ปี พอตอน
เดบิวต์ เอ้า ได้เดบิวต์ด้วยกันอีก นอนห้องเดียว
กันอีก เลยเป็นเพื่อนสนิท

ส่วน พี่จินยอง ก็น่ากลัว ๆ หน่อย ด้วยความที่
ผมเป็นคนต่างชาติ ช่วงแรกยังไม่ค่อยรู้วัฒนธรรม
เกาหลี แต่พี่จินยองเป็นคนเกาหลีและเป็นคนที่มี
วัฒนธรรมแบบคนเกาหลีแท้ ๆ ตอนเจอผมช่วง
แรกเขาก็จะไม่ค่อยเก็ตกับสิ่งที่ผมทำ ยกตัวอย่าง
เช่น เวลาไปกินข้าวด้วยกัน วัฒนธรรมเกาหลี
คนที่อายุเยอะกว่าต้องกินก่อน แต่ผมไม่รู้ก็กิน
ก่อน เลยโดนดุ แต่ตอนนี้ด้วยความที่พี่จินยอง
ได้อยู่กับคนต่างชาติเยอะขึ้น ในวงก็มี 3 คนแล้ว
เขาเลยชินขึ้นเข้าใจมากขึ้น

พี่เจบี ตอนแรกก็คล้าย ๆ พี่จินยอง แต่ตอนนี้
เปิดมากขึ้น เขาเป็นคนที่ถ้าไม่สนิทก็จะไม่ค่อยคุย
แต่ถ้าสนิทแล้วก็จะเปิดเลย ตอนเป็นเด็กฝึกผม
ไม่ค่อยสนิทกับพี่เจบีเท่าไหร่ แต่หลังจากเดบิวต์
ก็คุยกันเยอะขึ้น เขาโตกว่าผมประมาณ 4 ปี แต่
ตอนนี้เหมือนเป็นเพื่อนกัน ผมแกล้งเขาบ้าง เขา
แกล้งผมบ้าง ความน่ารักของพี่เจบีกับพี่จินยอง
คือ เขาจะทำเหมือนไม่ค่อยแคร์ แต่จะคอย
ช่วยเหลืออยู่ข้างหลัง เวลาเขาไปซื้อข้าวมาให้แล้ว
ผมนอนดูทีวีอยู่ในห้อง เขาก็จะเอาข้าวมาตั้งไว้
แล้วเดินไป เวลาดูแลเราเขาจะอาย ๆ นิดหนึ่ง

ขณะที่ พี่แจ็คสัน ก็เหมือนเดิม เคยตลกอย่างไร
ก็อย่างนั้น เป็น Mood Maker คอยสร้างสีสัน
ชอบเล่นมุก ก็สนุกดี มุกเขาบางทีก็แป้ก เคยเจอ
คนที่ยิงมุกมาแต่เราตลกตรงตัวคนยิงมากว่ามุก
ไหมครับ นั่นแหละพี่แจ็คสัน บางทีแค่มองหน้า
เขาก็ตลกแล้ว

ส่วน พี่ยองแจ เขาเป็นคนที่เข้ามาหลังสุดใน
GOT7 เป็นเทรนนีแป๊บเดียวแล้วเดบิวต์เลย
เทียบกับคนอื่นเรารู้จักกันนาน กว่าจะเข้ากันได้
แบบนี้ก็เคยทะเลาะกันมาก่อน แต่พอทะเลาะ
ก็ยิ่งทำให้สนิท พอถึงตอนเดบิวต์ทุกคนสนิทกัน
หมดแล้ว แต่พี่ยองแจเพิ่งเข้ามาได้ไม่นานแล้ว
เดบิวต์เลย จึงต้องปรับตัวให้เข้ากัน ปีแรกก็มี
ติดขัดและไม่เข้าใจกันบ้าง แต่เป็นเรื่องเล็ก ๆ
น้อย ๆ เช่น ผมเข้าไปอาบน้ำก่อนแล้วใช้ผ้าเช็ดตัว
ไปสองผืน แต่มันเป็นผ้าเช็ดตัวที่พี่ยองแจเป็นคน
เอาไปวางไว้ในห้องน้ำ แล้วผมไปใช้ของเขา เขา
จะไม่เข้าใจว่าทำไมผมทำแบบนี้ แต่ตอนนี้โอเคแล้ว
ความน่ารักของพี่ยองแจคือเขาไม่ค่อยอารมณ์
เสีย เป็นคนไม่ค่อยหงุดหงิด ถ้าหงุดหงิดเขา
ก็จะไปอยู่คนเดียว พวกผมกับเมมเบอร์คนอื่น
ถ้านอนไม่พอก็จะหงุดหงิด เรื่องนี้ถ้าคนหนึ่ง
หน้าบึ้ง อีกห้าคนที่เหลือก็จะรู้สึกเครียดตามไป
ด้วย แต่ถ้าเป็นพี่ยองแจอารมณ์เสียเขาจะไม่อยู่
ต่อหน้าคนอื่น แต่จะหลบไปคนเดียว เพื่อ
ไม่ให้คนอื่นเครียดตาม

ถ้ามีเกมให้เติมชื่อเมมเบอร์ไว้หลัง
คำเหล่านี้ คิดว่าชื่อใครควรอยู่หลัง
คำใดดังต่อไปนี้ คำแรก...จอมป่วน

ยูคยอม ตื่นมาตอนเช้าแทนที่จะปลุกผมดี ๆ
ก็เอาหมอนมาตี หรือเวลาอาบน้ำเสร็จเขาจะเอา
ผ้าขนหนูที่ใช้แล้วและเปียกมาม้วนแล้วฟาดผม

ตลกมาก
พี่แจ็คสันครับ อย่างที่บอกว่าแค่มองหน้าก็ตลกแล้ว

ขี้แง
พี่มาร์คครับ ไปหาดูได้ หลายคอนเสิร์ตจะ
เห็นเขาร้องไห้ตลอด คิดว่าที่ร้องเพราะเขาคง
นึกถึงว่ากว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ต้องผ่านอะไรมาบ้าง
เซ้นสิทีฟพอสมควร ตั้งแต่เดบิวต์มาเขาน่าจะ
ร้องไห้ไป 5 คอนเสิร์ตแล้ว

ขี้งก
น่าจะเป็นผมนี่แหละ (หัวเราะ) เวลาไปกินข้าว
ชอบไม่เอากระเป๋าตังค์ไป คนอื่่นจะบอกว่าใช้
วิธีนี้อีกแล้วนะ แต่เขามองผมเป็นน้องเล็ก เลย
ไม่ว่าอะไร

ขี้แกล้ง
พี่เจบี ชอบแกล้งผม แต่ผมก็แกล้งเขากลับ
ด้วย ยกตัวอย่างเช่น หลังพักจากการซ้อมเต้น
ถ้าครูที่สอนจะเรียกให้กลับไปซ้อมอีกรอบ ขณะที่
คนอื่นพร้อมแต่ผมยังเล่นมือถือ ถ้าพี่เจบีเห็น
เขาก็จะหันมาทางผมแล้วบอกว่า "เฮ้ย ใครจับ
โทรศัพท์อยู่ว้า" พอถึงตอนผมเอาคืน ผมก็จะ
"เฮ้อ...ใครจับโทรศัพท์อยู่น้า"

ช่างจ้อ
ผมกับยูคยอม ยูคยอมคือผมในเวอร์ชั่นคนเกาหลี (หัวเราะ)

ป๋ามาก
ไม่มีครับ เราซื้อของใครของมัน แต่พี่มาร์คก็ถือว่าสปอร์ตนะ
เพราะเขาโตสุด

นอนเก่ง
พี่ยองแจครับ นอนข้ามวันเลย จนพวกผมต้อง เอามือไปทาบจมูก
ว่ายังหายใจอยู่หรือเปล่า คุย ๆ กันอยู่หันไปมองอีกที หลับแล้ว

เต้นเก่ง
ยูคยอม จะบอกว่าตัวเองเต้นเก่งก็คงดูแปลก ๆ จริง ๆ แล้วคนที่
เป็นแดนเซอร์ในทีมมีผมกับยูคยอมสองคน น้องเล็กเป็นเมน
แดนเซอร์ แต่จะให้ผมพูดชื่อตัวเองมันก็ยังไงอยู่
ยกให้ยูคยอมไปดีกว่า

ครูของผม
จริง ๆ แล้วผมเรียนรู้จากสภาพแวดล้อมว่า ทำงานแบบนี้เราต้อง
วางตัวอย่างไร เวลานี้ต้องทำอะไร หรือเจอเรื่องเซ้นสิทีฟมาก ๆ
ต้องทำไง เรียนรู้จากเรื่องจริงมากกว่า เพราะผมไม่มีชีวิต
วัยเด็กเลย พอเริ่มจะมีเพื่อนในโรงเรียนผมก็มาเกาหลีแล้ว
ซ้อมมาตลอด 3 ปี ใช้ชีวิตเหมือนเดิมทุกวัน ตื่นสิบโมงเช้า
เพื่อไปซ้อม กลับสี่ทุ่มทุกวัน ชีวิตเพิ่งจะเริ่มมีสีสันก็ตอนนี้
เริ่มได้ตอบแทนครอบครัว ได้ให้ของขวัญตัวเองบ้าง
ได้ไปประเทศนั้นประเทศนี้ ได้ทำนั่นทำนี่

ดุเชียว
ทีมผมไม่มีคนดุครับ อยู่ด้วยกันก็บ้า ๆ บอ ๆ กันทุกคน (หัวเราะ)

กรุ้มกริ่ม
คือชอบโปรยเสน่ห์ใช่มั้ย ผมว่าน่าจะมี 2 คน คือผมกับพี่แจ็คสัน
พี่แจ็คสันเขาชอบใช้สายตาส่วนผมชอบโชว์ ขึ้นคอนเสิร์ตทีไรต้อง
ถอดเสื้อตลอด ทั้ง ๆ ที่ไม่มีอะไรให้โชว์ (หัวเราะ)

ใจบุญ
เราใจบุญกันคนละแบบ ล่าสุดไปถ่ายงานที่สนามบิน
แมลงเยอะ บางคนเจอแมลงอาจจะตบ แต่ผมไม่ฆ่า
สงสารมัน เพราะฉะนั้นใจบุญก็น่าจะเป็นผม

ทะลึ่งทะเล้น
ไปคิดเอาเองนะครับ แต่ถ้าดูแล้วอาจจะเป็นผม เพราะ
ผมชอบทำอะไรให้แฟนคลับคิดกัน (หัวเราะ)

เพื่อนที่แสนดี
ยูคยอม เขาแทบจะเป็นคู่ชีวิตของผมแล้ว ผมว่าถ้าวันหนึ่ง
ที่เราเหนื่อยที่จะเต้นและร้องแล้วหรือเลิกเป็น GOT7 แล้ว
แม้ว่าวงจะจบตรงนั้นแต่ผมกับยูคยอมก็คงอยู่บ้านข้าง ๆ กัน
ไม่ถึงกับอยู่ห้องเดียวกัน แต่อยู่บ้านข้างกัน (เบาเสียงแล้วพูด)
เดี๋ยวจะพามาอยู่เมืองไทย

คำสุดท้าย "บางทีก็งงนะ..." ประมาณว่าเขาทำอะไร
หรือคิดอะไรอยู่นะคนนี้ เข้าไม่ถึง

น่าจะเป็นพี่จินยอง บางทีผมก็ไม่รู้ว่าเขาคิด
อะไรอยู่ เป็นคนที่มีโลกส่วนตัวสูงเหมือนกัน

ย้อนกลับไป ถ้าแบมแบมปฏิเสธโอกาส
จากทาง JYP หลังจากปฏิเสธไปแล้ว
ครั้งหนึ่ง คิดว่าตอนนี้ตัวเองจะทำอะไรอยู่

คงเป็นเด็กที่เรียนอยู่ในมหาวิทยาลัยคนหนึ่ง
ตอนนั้นติดเกมด้วยครับ ไม่แน่ว่าผมอาจจะยัง
ติดเกมอยู่เหมือนเดิม

แล้วน่าจะเรียนด้านไหน
จริง ๆ ผมเป็นคนเรียนไม่เก่ง ตอนเด็ก ๆ นี่เรียน
ไม่เก่งแล้วยังติดเกมด้วย เรียนอะไรหรอ...เอา
จริง ๆ ผมชอบฟังเพลงมาตั้งแต่เด็ก แล้วก็ชอบ
ทำอะไรเกี่ยวกับการตกแต่ง ชอบวาดรูป ชอบ
วิชาศิลปะ ชอบจัดบ้าน ก็น่าจะไปทางออกแบบ
บ้านและทำเพลง

คิดว่าจะเสียดายไหมถ้าปฏิเสธครั้งที่สอง
จนทำให้ไม่ได้เป็นศิลปินแบบทุกวันนี้

จะบอกว่าเสียดายก็ไม่ได้ เพราะการเป็นศิลปิน
มันก็มีทั้งด้านที่ดีและไม่ดี เราทำงาน ได้เจอคน
ดีๆเยอะ ได้ไปหลายประเทศ มันก็ดี แต่บางที
ก็อดนอน ไม่มีฟรีด้อมสักเท่าไหร่ เทียบกับคน
ธรรมดาชีวิตอาจจะไม่มีสีสันมาก แต่ก็มีฟรีด้อม
มีเวลานอนเยอะกว่า มันมีดีมีเสียคนละอย่างกัน



นอกจากการร้องเพลง มีอะไรที่อยากทำอีกไหม
อยากเดินแบบครับ เคยไปเดินให้แบรนด์ของ
ดีไซเนอร์ไทยมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่อยากเดินอีก

ถ้าถามว่าศิลปินคนไหนในค่ายที่ยก
ให้เป็นแบบอย่างที่น่าชื่นชม

ประธานค่ายของพวกผม พี่ปาร์คจินยองอัลบั้มแรก
ของเขาเดบิวต์ตอนผมเพิ่งเกิด ผ่านมายี่สิบกว่าปีแล้ว
แต่เขาก็ยังดัง ร้องได้ เต้นได้ ทั้ง ๆ ที่เริ่มจะอายุ
เยอะ เขายังคงออกกำลังกายและคงสภาพตัวเองไว้
ได้ดีมาก เพลงของเขาบางเพลงผมก็ไม่ได้ชอบถึงที่สุด
แต่ต้องยอมรับว่าเขาเยี่ยมจริง ๆ ทุกอาทิตย์ต้องมีเพลง
ออกมาเพลงสองเพลงให้วงนั้นบ้างวงนี้บ้าง เขารักการ
ทำอาชีพนี้จริง ๆ

แล้วศิลปินคนไหนในค่ายที่ถึงตอนนี้
เวลาเจอเขาหรือเธอก็ยังทำให้ตื่นเต้นได้เสมอ

ในค่ายนี่ไม่มีแล้วครับ เพราะคุ้นเคยหมดแล้ว
แต่ถ้าเป็นนอกค่ายก็น่าจะเป็น พี่แทยอน ผมชอบ
เขาตั้งแต่เป็นเด็กฝึกและตอนนี้ก็ยังชอบอยู่ ผมเคย
ไปแฟนไซน์ (Fansign) ของเขาตอนเป็นเด็กฝึก
ด้วย ซื้ออัลบั้มไปให้เขาเซ็น ในนั้นเขายังเขียนว่า
"ไว้เดบิวต์แล้วเจอกันตามช่องนะ" พอเดบิวต์แล้ว
ผมก็เอาที่เขาเซ็นให้ดู เขาก็บอกว่า "อู้ว ได้
เจอจริงๆด้วย" ได้ถ่ายรูปด้วยกันรูปหนึ่ง แล้วมี
งานตอนปลายปี เป็นงานรับถ้วย ถ้าจำไม่ผิด
น่าจะเป็นของ MBC ผมก็ขอเมเนเจอร์ บอกว่าไป
ขอพี่แทยอนให้หน่อยว่ามีแฟนคลับอยากถ่ายรูป
(หัวเราะ)

ชอบอะไรในตัวแทยอน
พูดตรง ๆ คือเขาเป็นคนที่ตรงสเป็คผม ตัว
เล็ก ๆ แล้วเป็นคนที่มีความเป็นผู้หญิงสูง แต่พอ
รู้จักกันก็จะรั่ว ๆ และมีความแมน ๆ หน่อย เวลา
หัวเราะก็ "ฮ่า" คือไม่ได้หัวเราะแบบเก๊ก ๆ ชอบ
ที่เขาไม่ได้วางฟอร์มอยู่ตลอดเวลา มีความเป็น
ธรรมชาติแล้วก็ร้องเพลงเก่ง

อีกคนที่รู้มาว่าของคือ G-Dragon
ใช่ครับ เป็น Top 5 อีกคนที่ผมชอบ เขาคือ
ที่สุดแล้ว จนที่คนบอกว่าเขาเป็นสมบัติของเกาหลี
ตอนไปออกรายการแล้วเจอเขาผมเพิ่งเดบิวต์ได้
ปีครึ่ง ผมไปสัมภาษณ์เขา บอกเขาว่าผมเป็น
แฟนคลับพี่นะ เขาก็เข้ามากอด บอกว่าทำไม
ไม่บอกตั้งแต่แรก ชอบที่เขายังมีความเป็นรุ่นพี่
และมีความเป็นกันเอง

ถ้ามีแม่คนหนึ่งที่ลูกเป็นเด็กติดเกมมา
ปรึกษาว่าทำอย่างไรให้ลูกเขาใช้เวลาว่าง
ให้เป็นประโยชน์กว่านี้ จะตอบว่า

ถ้าให้ตอบตามจริงคือให้เขาเล่นจนเขาเบื่อ
(หัวเราะ) พอเบื่อเดี๋ยวมันก็หายเอง เพราะผมเอง
ก็เป็นแบบนั้น ผมเล่นจนผมเบื่อ จนถามตัวเอง
ว่าทำอะไรต่อดี "เต้นมะ" แล้วก็ไปเต้น แต่ถ้าเขา
อายุเท่าผมตอนนี้แต่ยังติดเกม ไม่ทำงาน ก็ต้อง
บอกว่าอนาคตมันจะเหนื่อยหน่อย ถ้าจะเริ่มทำอะไร
สักอย่างอย่างเราควรเริ่มตอนอายุสัก 20 แต่ถ้า
มาเริ่มตอนอายุ 23 - 24 ผมว่ามันอาจจะช้าไป
จริง ๆ การเล่นเกมก็ไม่ใช่สิ่งที่ไม่ดีเสียทีเดียว
มันก็เป็นงานอดิเรกอย่างหนึ่งทำให้คลายเครียด
ได้ ถ้าเล่นเกมไปด้วย ทำอย่างอื่นไปด้วยก็จะดี
ตอนที่ผมเริ่มเต้นใหม่ ๆ ผมก็ไม่ได้เลิกเล่นเกม
แบบถาวร เต้นตอนเช้า กลับไปเล่นเกมตอนเย็น
คุณแม่ก็ลองคุยกับลูกดูนะครับ

ที่สุดของเกมที่ยกให้เป็นเกมในดวงใจ
ผมเล่น Lineage 2 เป็นเกมอาร์พีจี นั่งฆ่าปีศาจ
ทั้งวัน (หัวเราะ)



เราจะเห็นพัฒนาการของแบมแบมอยู่
เสมอ ๆ ถ้าถามว่าเบื้องหลังต้องทุ่มเทกัน
ขนาดไหนกว่าจะได้งานแต่ละชิ้นออกมา

คนอาจจะคิดว่าผมยังเรียนร้องเรียนเต้นอยู่
จริง ๆ แล้วหลังจากเดบิวต์เสร็จ ผมไม่ได้เรียนร้อง
และเรียนเต้นอีกเลยตลอด 4 ปีที่ผ่านมา เรื่องนี้
มันแล้วแต่คนนะครับ แต่นิสัยของผมคือ สมมุติ
ว่าครูนั่งเล่นเปียโนแล้วให้ผมร้อง ผลคือง่วงครับ
เวลาง่วงอะไรก็ไม่เข้าหัวสักอย่าง แต่สิ่งที่ทำให้
ทุกอย่างดีขึ้นคือประสบการณ์บนเวที พอขึ้นเวที
บ่อย การออกเสียง การร้อง การเต้นก็จะดีตาม
ยิ่งขึ้นเวทีเยอะเท่าไหร่ประสิทธิภาพของร่างกาย
ก็จะดีขึ้นมากเท่านั้น อย่างตอนแรกเต้นเพลงนี้
ช่วงแรกเหนื่อยมาก แต่พอเต้นไปสักสี่รอบ
ความแรงเท่าเดิม แต่ไม่เหนื่อย เหมือนว่าปอด
มันขยายขึ้น

เวลาที่เข้าไปในสตูดิโอแล้วทำเพลง ได้กดบีท
ทำนั่นทำนี่ เอาไมค์จ่อ หรือลองร้องอะไรมั่ว ๆ
เพื่อเอาเมโลดี้อย่างเดียว ทำแบบนี้ทุกวันมันดีขึ้น
เรื่องการเมคเมโลดี้ไลฟ์ ทั้งการแร็พ การเขียน
เพลง แต่จะทำแบบนี้อย่างเดียวมันก็ไม่ได้ ต้อง
ออกไปข้างนอกแล้วลืมเรื่องพวกนี้ไปบ้าง ในหนึ่ง
อาทิตย์ถ้าทำเพลงทั้ง 7 วัน รับรองหัวระเบิด ควร
แบ่งเวลาสักสองวันออกไปเจอเพื่อน ไปพักผ่อน
บ้าง การเขียนเนื้อเพลงมันต้องมาจากประสบการณ์
ด้วย สมมุติว่าเป็นเพลงปาร์ตี้ ก่อนเขียน เนื้อเพลง
ผมก็จะไปปาร์ตี้กับเพื่อน พอกลับมาก็มานึกถึง
ความทรงจำว่ามีอะไรบ้าง แล้วก็เขียน ๆ ๆ

ยังจำความรู้สึกที่ได้รางวัลแรก
หลังเดบิวต์ได้ไหมครับ

จำได้ ได้ที่หนึ่งในรายการ ตอนนั้นร้องเพลง
If You Do ตอนได้รับรางวัลนี้เป็นปีที่สองของการ
ทำงานแล้ว ผ่านไปปีหนึ่งยังไม่ได้รับรางวัลก็รู้สึก
ว่าจะรอดไหมเนี่ย การทำงานที่เกาหลีก็ยากพอ
สมควร คู่แข่งเยอะ มีวงใหม่ ๆ ออกมาทุกวัน
ก็แอบกังวลว่าเราจะไปได้สุดไหม แต่พออัลบั้มนั้น
ได้ที่ 1 ก็รู้สึกดีใจ หลังจากนั้นก็ได้ที่หนึ่งทุกอัลบั้ม
ที่ออก อินสตาแกรมก็มีคนตามมากขึ้น อย่างที่
เมืองไทยจากที่จัดหน้าโรงหนัง กลายเป็นแฟน
มีตติ้งในฮอล์ที่จุคนได้กว่าห้าพันคน และตอนนี้
ก็เป็นอิมแพ็ค อารีน่าที่จุคนได้หมื่นกว่าคน ขณะที่
เกาหลีจากแฟนมีตติ้งสองพันคน ปีที่สองเป็น
ห้าพันคน ปีล่าสุดแปดพันคน มันเห็นได้ชัดว่า
ค่อย ๆ ดีขึ้น

กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ ถ้าถามว่าแบมแบม
ต้องผ่านอะไรมามากมายขนาดไหน

เอาจริง ๆ มันมีเบื้องหลังเยอะพอสมควร
หลายคนอาจจะคิดว่าตอนไม่มี schedule พวกผม
คงได้พัก แต่จริง ๆ แล้วเรายังถ่ายรายการ มีงาน
แทบทุกวัน รอบนี้ที่ได้มาถ่าย สุดสัปดาห์ จริง ๆ
มันคือฮอลิเดย์ของ GOT7 ที่ได้พัก แต่ผมรู้สึก
เสียดาย ไหน ๆ มาที่ไทยแล้วก็ทำงานซะหน่อย
เป็นครั้งแรกในรอบสามปีที่ได้พัก

ช่วงคัมแบ็กบางทีก็ต้องเตรียมอัลบั้มใหม่ไป
ด้วย ก็จะทำงานหนักหน่อย ตื่นประมาณตีสี่ไป
แต่งหน้า ไปเรียนตอนเช้า แล้วไปอัดรายการ
เข้ารายการสด เสร็จงานประมาณสามทุ่ม จริง ๆ
กลับถึงบ้านก็ต้องนอนเพราะวันต่อมาก็มีงาน
แต่พอมีอัลบั้มใหม่ ผมก็อยากให้มีเพลงของ
ตัวเองเข้าไปในอัลบั้มด้วย หลังจากทำงานเสร็จ
สามทุ่มจะไม่กลับบ้าน แต่จะเลยไปสตูดิโอ ทำ
เพลงต่อกับพี่ที่รู้จักที่ทำงานอันเดอร์กราวน์กัน
สองคน ทำถึงตีสองกลับบ้านนอน ตีสี่ต้องตื่นอีก
ทั้งที่สามารถเอาเวลาไปนอนได้ แต่ผมรู้สึกว่า
มันจะทำให้ไม่มีเพลงเข้าอัลบั้ม ไม่มีเนื้อเพลง ไม่มี
เพลงดี ๆ ออกมา ก็เสียดาย คิดว่าค่อยไปนอน
ทีหลังก็ได้ เบื้องหลังมันจะมีอะไรแบบนี้อยู่เรื่อย ๆ

มันคือความทุ่มเทจริง ๆ
ทั้งความทุ่มเทและความอยากเลยครับ ผม
อยากให้ในอัลบั้มมีเพลงที่เขียนบายแบมแบมแค่นั้นเอง

ในการทำงานเป็นธรรมดาที่จะเหนื่อย
เวลาเหนื่อย บอกตัวเองอย่างไรให้มีกำลังสู้ต่อไป

ฟังเพลงครับ หรือไม่ก็หลับไปเลย จริง ๆ แล้ว
ผมไม่ค่อยได้โชว์มุมนี้ให้คนอื่นดูสักเท่าไหร่ มอง
ว่าเป็นจุดอ่อน ถ้าอีกฝ่ายรู้ว่าช่วงนี้ผมเริ่มเหนื่อย
เขาก็จะเข้ามา attack ผมได้ ไม่อยากให้เห็น
แบบนั้น เจอใครที่ไหนก็จะ...ไม่ใช่เฟค แต่ไม่โชว์
ด้านที่เป็นจุดอ่อนให้เขาเห็น

ถ้าสอนภาษาเกาหลีที่กำลังฮิตอยู่ตอนนี้
แบบที่ศิลปินเกาหลีต้องฝึกเมื่อมาเมือง
ไทย คำไหนที่พูดแล้วจะทันสมัยที่สุด

ชิล-ฮวา-นยา? นี่เป็นเรื่องจริงเหรอ นี่คือความ
จริงเหรอ เป็นคำที่มาจากเกมฮิตในเกาหลีเกมหนึ่ง
เล่นเกมแล้วชนะก็จะ "ชิล-ฮวา-นยา?" จริงหรือเนี่ย
หรือกินอะไรมาแล้วอร่อยมาก ก็จะ "ชิล-ฮวา-นยา?"
ใช้ได้หลากหลายและทุกสถานการณ์

ในฐานะที่เป็นศิลปินกลุ่ม ถ้าให้บอกว่าอะไร
คือสิ่งที่สำคัญที่สุดของการอยู่ร่วมกัน

ผมว่าต้องคุยกันเยอะ ๆ เช่นผมหงุดหงิดมุมนี้
ของคนนี้แล้วเก็บไว้คนเดียว ทีมก็จะ (ทำหน้า
เหมือนว่าแย่) แต่ทีมของผมดีตรงที่เวลาใคร
หงุดหงิดใครก็เรียกแล้วไปคุยกันสองคน "เมื่อกี้
ไม่พอใจนะ ถ้าเราทำอะไรให้ไม่พอใจก็ขอโทษ
ด้วย แต่ไม่อยากให้ทำแบบนี้อีก" แล้วก็จบกัน
แค่นั้น ไม่โกรธกัน

ฝากอะไรถึงเหล่าอากาเซหน่อย
วันนี้มาถ่าย สุดสัปดาห์ ครับ นี่เป็นรอบที่สาม
ที่ได้ขึ้นปกนิตยสารของประเทศไทย ก็อยากให้
คอยสนับสนุนกันและในอนาคตน่าจะได้มีโอกาส
ได้ทำงานกันอีกครั้้ง หวังว่าทุกคนจะชอบรูปและ
ชอบชุดที่ใส่นะครับ

ที่สังเกตอย่างหนึ่งคือรู้สึกว่าแบมแบม
จะรู้เรื่องราว ข่าวสาร รวมถึงความเป็น
ไปของเหล่าอากาเซเยอะนะ

ผมส่องเป็นชีวิตประจำวันเลยครับ (หัวเราะ)
บางทีก็ไม่ได้ตั้งใจส่อง แต่เปิดเข้าไปดูแล้วมันก็
ขึ้นมา"อ้อ เรื่องราวมันเป็นแบบนี้ ๆ" อย่างที่กลับมา
รอบนี้ผมเพิ่งตัดผมแล้วเอาผมลง แฟนคลับ
ก็ฮือฮา บอกว่าในที่สุดก็เอาหน้าม้าลงอีกรอบ
เขาชอบให้เอาหน้าม้าลง รวมถึงเรื่องกระเป๋า ผม
เพิ่งเปลี่ยนหลังจากใช้ใบเดิมมาสามปี เขาก็จะ
"เฮ้ย แบมเปลี่ยนกระเป๋าแล้ว"

ทำไมถึงเปลี่ยน
เอาจริง ๆ คือสายมันหลุดครับ

ถ้าไม่หลุดก็ยังจะใช้ต่อ
(หัวเราะ) กลับไปดูรูปเก่า ๆ ตลอดสามปีที่ผ่านมา
ผมถือกระเป๋าใบเดิมทุกวัน ไม่ว่าอยู่สนามบิน ไป
ออกรายการ คิดว่าถึงเวลาแล้ว ตอนนี้กระเป๋า
ใบเดิมมันตายแล้ว

เกมเติมชื่อที่เล่นไป ถ้ามีคำว่า "งก"
หรือ "ประหยัด" สงสัยต้องตามด้วยชื่อแบมแบม

(หัวเราะชอบใจ) จริง ๆ ผมไม่ได้อะไรมากกับ
ของเหล่านี้ ก็ถือ ๆ ไปอย่างนั้นแหละครับ



LOVE YOU, BAMBAM
เพราะรักจึงขอเมาท์


รวมเรื่องเล่าสุดเอกซ์คลูซีฟจากคนรักแบมแบม
ทั้ง แม่จุ๋ม - กชกรและแก๊งพี่น้อง เบียร์ - แบงค์ -
เบบี้ งานนี้จะขำฮาน้ำตาเล็ต
หรือน่าเอ็นดูแค่ไหน ไปเมาท์
พร้อมกันค่ะ

ความลับของแบมแบมที่แม่จุ๋มอยากบอก
"แบมแบม" ไม่อยากชื่อ "แบมแบม"

http://sudsapda.com/men/95827.html
"คือบ้านเราตระกูล 'บ' หมด พอมาถึงคนที่ 3 ก็คิดกัน
ว่าจะชื่ออะไรดี ส่วนใหญ่บอกเบนซ์ เบสท์ โบ๊ท ซึ่งแม่
ไม่ชอบเลย พอดีช่วงนั้นพี่ ๆ เขากำลังติดการ์ตูน มนุษย์หิน
ฟลินท์สโตน แล้วในเรื่องมีเจ้าตัวเล็กตัวหนึ่งที่แข็งแรงมาก
ชื่อว่าแบมแบม เราก็เลยเอาชื่อนี้ละกัน น่ารักดี และลูก
ก็จะได้แข็งแรงด้วย แต่พอโตมาหน่อยเจ้าตัวกลับไม่ชอบ
เพราะไปโรงเรียนแล้วเพื่อน ๆ ชอบล้อว่าเป็นชื่อผู้หญิง
คือในห้องมีผู้หญิงชื่อแบมแบม และอีกห้องหนึ่งก็มีผู้หญิง
ชื่อนี้เหมือนกัน เป็นชื่อโหลซึ่งส่วนใหญ่เป็นเด็กผู้หญิง
เขาก็เลยไม่ชอบ อยากเปลี่ยน จนต้องไปดูหมอ...พูดแล้ว
เหมือนคนบ้าหมอดูเลยนะแม่ลูกคู่นี้ (หัวเราะ) หมอดู
บอกว่าไม่ว่าจะเปลี่ยนชื่อเป็นอะไรสุดท้ายชื่อในวงการ
ของคุณจะเป็นแบมแบม เขาก็โอย...ต้องโดนล้อแน่ ๆ เลย
ชื่ออะไรก็ไม่รู้ คนเกาหลีจะอย่างโน้นอย่างนี้หรือเปล่า
จนมาตอนนี้ภูมิใจในชื่อตัวเองแล้วค่ะ" (ยิ้ม)

เด็กแสบญาติระอา
"สมัยเด็ก แบมแบมเป็นเด็กที่อเลิร์ตที่สุดในสี่คน
พี่น้อง เวลานัดกินข้าวกับกลุ่มญาติ ๆ ทุกคนจะกลัว
แบมแบมมาก เพราะจะนั่งไม่เป็นสุขเลย ไฮเปอร์
ตลอด บางทีออร์เดอร์เสร็จ ข้าวมาวางบนโต๊ะแล้ว
ยังไม่ทันกินก็ต้องบอกพนักงานให้ช่วยห่อกลับบ้าน
ด้วย ทนไม่ไหว คืนซนมากจนทุกครั้งที่กินเลี้ยงญาติ
ทุกคนจะบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ฉันไม่นั่งโต๊ะเดียว
กับแบมแบมนะ"

ติดแม่ แม้แต่เวลานอน
"เมื่อก่อนแบมติดแม่มาก พอต้องส่งลูกไปเกาหลี
จึงค่อนข้างเป็นห่วง เพราะตอนอยู่กับเราแค่นั่งยังต้อง
ตัวติดกันเลย เดิมทีที่บ้านเก่าเรามี 3 ห้องนอน แต่พวกเรา 5
คนแม่ลูกจะนอนรวมกันอยู่ในห้องเดียว แล้วแบมจะจองที่ข้าง ๆ แม่
ไว้ก่อนเสมอ คนอื่นไม่มีใครนอนข้างแม่ได้เลย พอไปอยู่ที่โน่น
แรก ๆ ก็โทรศัพท์มาหาทุกสองชั่วโมง จนเห็นค่าโทรศัพท์เดือนแรก
ที่แบมไปเกาหลีแล้วแม่ถึงกับช็อก ก็เลยบอกว่าจะโทร.มาบ่อย
แบบนี้ไม่ได้แล้วนะ ม๊าขอสักวันละ 2 ครั้งแล้วกัน จึงค่อย ๆ ปรับ
จนมาถึงตอนนี้ก็ยังคุยกันทุกวัน อย่างวันนี้เพิ่งไปทำสีผมมา
ก็จะเฟซไทม์มาโชว์ว่าสีนี้ดีไหมแม่"



ศัพท์พื้นฐาน ที่แฟนต้องรู้
เดบิวต์ (Debut) : เปิดตัวเป็นศิลปินเป็นครั้งแรก
อากาเซ (Ahgase) : เป็นชื่อกลุ่มแฟนคลับที่ย่อมาจาก IGOT7
(ในภาษาเกาหลี อากาเซ แปลว่า นกน้อยหรือลูกนก)
เมน (Main) : สมาชิกในวงที่ชอบมากที่สุด เช่น อากาเซเมนแบมแบม
คือแฟนคลับ GOT7 ที่ชอบแบมแบมมากที่สุดในวง
เทรนนี (Tainee) : ศิลปินฝึกหัด
แฟนไซน์ (Fan Sign) : งานแจกลายเซ็น
ไฮทัช (Hi Touch) : การแตะมือกับศิลปิน
คัมแบ็ก (Come Back) : การออกอัลบั้มใหม่


ความซน ต้นเหตุของความกลัวผี
"ด้วยความที่เขาซนเราเลยพยายามสอนลูกให้รู้จักบาปบุญคุณโทษ สอนเรื่องผี
ซึ่งก็คงมีส่วนที่ทำให้เขากลัวมาจนทุกวันนี้ อย่างตอนไปโรงเรียนเด็ก ๆ จะชอบ
กินนั่นนี่ร่วมกันแล้วก็ติดหวัดกลับมาตลอด พอดีช่วงนั้นมีหนังเรื่อง กระสือ
ที่แบมกลัวมาก เราเลยช่วยเสริม บอกว่าอย่าดื่มน้ำร่วมกับคนอื่นนะลูก ถ้า
ไปเจอน้ำลายใครที่เป็นกระสือเราก็จะเป็นกระสือตาม จากนั้นมาแบมก็ไม่ดื่มน้ำ
ร่วมกับคนอื่นอีกเลย กระทั่งได้เดบิวต์ แรก ๆ ก็ยังไม่กินอะไรต่อจากคนอื่นนะ
อย่างแจ็คสันดื่มน้ำแล้วยื่นมาให้แบมก็จะไม่กล้าดื่มต่อ พอหลัง ๆ เขาเริ่มเข้าใจ
อะไรมากขึ้นถึงปรับตัวได้ แต่จะว่าไปลูก ๆ คนอื่นแม่ก็สอนแบบนี้เหมือนกัน
ไม่เห็นมีใครกลัวเท่าแบมเลย อาจจะเป็นเพราะแบมป๊อดกว่าคนอื่นก็ได้"

เครื่องรางของขลังที่ขาดไม่ได้
"ส่วนมากเป็นพระ แม่ให้ไปแล้วก็จะบอกว่าพระองค์นี้คุ้มครองเรื่องนั้นนะ
พระองค์นั้นดูแลเรื่องนี้นะ บูชาให้แล้วก็ตามแต่แบมศรัทธาแล้วกัน"

"ผี" ถึงไม่เคยเจอแต่กลัวมาก
"เห็นกลัวขนาดนี้ถามว่ามีประสบการณ์เจอสิ่งลี้ลับบ้างไหม ไม่เคยเลย
แต่กลัวมาก อย่างล่าสุดบอกแม่ว่า 'เนี่ยแบมว่าแบมไม่กลัวผีแล้วนะ เพราะ
ไม่เห็นว่าจะเจอเลย' แม่ก็คิดว่าเขาคงเลิกกลัวแล้วจริง ๆ เลยเปิดรายการผี
ทางวิทยุที่แม่ชอบให้ฟัง ปรากฏว่าฟัง ๆ อยู่หันหลังให้แล้วบอก 'ม๊า แบมไม่กล้า
มองกระจกตรงนี้แล้วเนี่ย' คือยังกลัวเหมือนเดิม (หัวเราะ)
"ตอนเป็นเทรนนี พี่ซองจุนวง Boys Republic ชอบอำว่ามีสัมผัสที่ 6
เวลาเข้าไปที่หอก็จะบอกแบมว่า เห็นเด็กผู้หญิงนั่งรอแบมอยู่ปลายเตียงทุกวัน
พอเข้าห้องซ้อมก็บอกมีผีอยู่ใต้เปียโน แบมเลยกลัว โทร.มาบอกให้แม่
ไปดูหมอให้ ทีแรกแม่หลงเชื่อ กลัวว่าผีเด็กผู้หญิงจะทำอะไรลูกเรา แต่พอ
ไปหาหมอดู หมอดูบอกว่าไม่เห็นมีอะไร แม่เลยหาพระไปให้ จนพี่ซองจุนเริ่ม
รู้สึกว่าบ้านเราซีเรียสถึงได้มาสารภาพว่าที่ผ่านมาหลอกแบม ผีเด็กผู้หญิง
ที่ว่าไม่มีหรอก"

"ดวง" ความเชื่อส่วนตัว โปรดใช้วิจารณญาณ
"แบมเชื่อเรื่องหมอดูมาก ตอนที่เราเปลี่ยนชื่อกันทางค่ายและ
เพื่อนคนอื่นก็งงว่าทำไมต้องเปลี่ยนชื่อทั้งแม่และลูก ความจริงคือ
เราไปดูหมอมา แล้วเขาบอกว่าชื่อเดิมของแบม 'กษิดิ์เดช' ไม่เหมาะ
ที่จะเข้าวงการ ไม่มีราศีในวงการบันเทิงเลย ทั้งที่ตอนเป็นเทรนนี
แล้วนะ จึงเปลี่ยนเป็น 'กันต์พิมุกต์' เสร็จแล้วพอดูชื่อแม่ เฮ้ย!
ชื่อแม่ไม่เสริมลูก เลยเปลี่ยนพร้อมกัน ทางเกาหลีก็งงว่าเปลี่ยน
เพราะเหตุนี้จริง ๆ เหรอ แล้วเวลาเดินทางไปที่โน่น ตม.เกาหลีจะถาม
ตลอดว่าเปลี่ยนชื่อทำไม เราก็บอกว่าเปลี่ยนเพราะอยากมีมันนี่เยอะ ๆ
เขาก็หัวเราะ คือไม่เข้าใจว่าทำไมต้องถามทุกครั้งเลย"

เรื่องของ "ผม" ใส่ใจตั้งแต่เด็ก
"เอาจริง ๆ แบมเป็นเด็กที่วุ่นวายกับเรื่องหัวมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วนะ เขา
จะต้องหล่อตลอด เมื่อก่อนคัฟเวอร์เรนเขามีช่างประจำชื่อป้าติ๋ม แบม
ก็คอยกำกับป้าติ๋มว่าต้องฉีดสีผมให้เหมือนพี่เรน ต้องห้ามเกินตรงนี้นะ คือ
ตัวเล็กแต่เรื่องมาก จนป้าติ๋มบอก 'ตัดเองไหมแบม' (หัวเราะ)
"เรื่องสีผมแม่ก็เคยเตือนนะ ตอนที่มีรูปออกมาว่าเห็นหนังหัวแบมเยอะเลย
แม่ก็บอกว่า แบม แฟนคลับเขาพูดกันว่าลูกหัวล้านหรือเปล่า ทำสีผมบ่อยเกิน
ไปไหม เขาบอกไม่ใช่ ๆ มันเป็นขวัญ พอแม่เตือนให้พักผมบ้าง เขาก็สัญญาว่า
จะพักหนึ่งปีเลยทำสีดำ แต่ได้ไม่เท่าไรเอง เปลี่ยนอีกละ ให้เหตุผลว่าผมดำ
มาไทยหลายทีแล้ว อีกอย่างทำสี ๆ เวลาอยู่บนเวทีแฟนคลับจะได้ไม่ต้องมานั่ง
สังเกต แค่เห็นก็รู้แล้ว อ้าว! แบมอยู่นี่เอง ก็เลยต้องปล่อยเขาไป"



ก่อนพี่เรน แวนเนส F4 คือที่หนึ่งในใจ
"แบมมาเริ่มเต้นจริง ๆ เพราะแวนเนส F4 คือตอนนั้นเราติด F4 กันมาก
ในบรรดาแฟนคลับ F4 จะรู้จักพวกเรากันหมด เพราะเป็นกลุ่มที่พาลูกยั้วเยี้ย
ไปนั่งเข้าแถวจองบัตร พอแม่ติ่งลูกก็ติ่งเหมือนอยู่ในสายเลือด เวลาเปิด
คอนเสิร์ต F4 ดูเขาก็จะเต้นตาม แวนเนสคือไอดอลของแบมเลยตอนนั้น
เพราะยังไม่ค่อยมีใครเต้นแบบนี้ เกาหลียังไม่ค่อยมาเท่าไร พวกเด็ก ๆ
ก็จะแบ่งกันเลยว่าคนนี้เป็นใครคนนั้นเป็นใครแล้วก็เต้น จนกระทั่งเรนเริ่มเข้ามา
เขาก็หันมาเต้นเป็นเรนแบบเต็มตัว"

ถ้าพี่ไม่เจ็บ อาจไม่มี "แบมแบม GOT7"
"ที่แม่พาแบมไปเรียนเต้น ก็เพราะว่าแม่ชอบเรน อีกอย่างเห็นลูกติดเกมมาก
อยากหาวิธีให้เขาเลิกเล่นเลยพาไปเรียนเต้นและประกวดคัฟเวอร์เรน ช่วงแรก ๆ
เป็นพี่เบียร์ก่อน แต่ซ้อมไปได้ไม่เท่าไรพี่เบียร์เข่าบวมเลยขอให้แบมช่วย
ตอนนั้นถ้าชนะจะได้รางวัลดินเนอร์กับเรน ก็เลยบอกเขาว่า 'แบมช่วยหน่อยนะ
ม๊าอยากไปกินข้าวกับเรน' พอยุเข้า ๆ เขาก็บ้าจี้เอาด้วยแข่งจนได้รางวัลมา
พอแม่เห็นว่าเขาชอบก็ถอดพี่เบียร์ออกแล้วให้แบมแทน ทุกวันนี้ก็ยังบอกเขาว่า
ถ้าพี่เบียร์ไม่ขาเจ็บแบมไม่ได้เกิดเลยนะรู้ไหม"

แม่แบมแบม แต่เมนเจบี
"แม่ประกาศตัวเลยว่าเป็น 'เมนเจบี' บอกแบมว่า ม๊าเจอแบมมา
ยี่สิบกว่าปีแล้วนะ ให้ม๊ากรี๊ดคนอื่นบ้างเถอะ คือเมื่อก่อนไม่รู้จัก
เจบีเลย เพราะว่าตอบแบมเป็นเทรนนีเจบีได้เข้าไปเป็นเด็กโปรเจ็กต์
และได้เล่นซีรี่ส์แล้ว เลยไม่ได้อยู่หอด้วยกัน มาเจอเจบีอีกทีก็ตอน
เดบิวต์ ด้วยมาดนิ่ง ๆ และฟอร์มเยอะของเขาเราก็เฉย ๆ นะ แต่พอ
ได้เจอกันที่คอนเสิร์ตแรกของวงซึ่งทางเจวายพีเชิญผู้ปกครองไปดูด้วย
เราเห็นเขาอยู่กับแม่แล้วกอดแม่ตลอดเวลา เลยรู้สึกว่าฟอร์มเยอะ ๆ
แบบนี้แต่เวลาอยู่กับแม่เปลี่ยนเป็นคนละคน แม่ยังบอกเจบีว่า
ลูกฉันยังไม่เคยกอดฉันขนาดนี้เลย ไม่เคยอ้อนขนาดนี้ด้วย คือน่ารัก
มาก ก็เลยประกาศตัวว่าต่อไปนี้ฉันจะเป็นเมนเจบีนะ" (ยิ้ม)

เพื่อแม่แบมแบมทำได้
"ประสาคนชอบเกาหลีแม่ก็คอยติ่งคนนั้นคนนี้เรื่อยมา เวลาดูซีรี่ส์เรื่องไหน
แล้วอินมาก ๆ ก็จะชอบคนนั้น อย่างตอนดู The Greatest Love
แม่ชอบซาซึงวอนมาก จนลูกรู้ว่าแม่บ้าผู้ชายคนนี้ พอแบมไปเป็นพรีเซ็นเตอร์
ในงานหนึ่งแล้วเจอเขาก็โทร.มาบอกว่า 'ม๊าแบมเจอสแตนดี้ซาซึงวอนด้วย'
เราก็บอกเฮัย! ขอมาให้ได้นะ เสร็จแล้วพอขอมาได้ด้วยความอายเขาก็พากันถือ
สแตนดี้วิ่งกับพี่มาร์ค จนสุดท้ายสแตนดี้แม่คอขาดเลย โกรธมาก (หัวเราะ)
แต่ตอนนี้ต้องติ่งวงลูกตัวเองแล้วค่ะ"

ปรึกษาแม่ทุกเรื่อง ยกเว้นเรื่องรองเท้า
"ปกติแบมจะปรึกษาแม่ทุกเรื่อง ยกเว้นเรื่องแอบซื้อรองเท้ากับเสื้อผ้า เพราะ
เขารู้ว่าซื้อมาแพงแล้วแม่จะบ่น เลยไม่ค่อยบอก แรก ๆ แม่ก็หลอกถามจาก
สมาชิกในทวิตเตอร์ว่าเสื้อผ้าพวกนี้ราคาเท่าไร แฟนคลับเก่งมาก เห็นแบม
ใส่วันนี้ปุ๊บขึ้นราคาในทวิตปั๊บ เราก็ตกใจว่าแพงขนาดนี้เลยเหรอ เวลาถาม
แบมก็จะบอกว่าไม่ได้ซื้อ บริษัทยืมมาให้หรือเป็นสปอนเซอร์บ้าง แต่แม่ก็ยัง
สงสัยอยู่ดีว่ายืมมาทำไมใส่ 3 งานเลยล่ะแบม เขาไม่เอาคืนเหรอ จนหลัง ๆ
สมาชิกเริ่มรู้แล้วว่าเราหลอกถาม เลยไม่มีใครยอมบอก ช่วยกันปิดสุดฤทธิ์
"อย่างเรื่องรองเท้า 60 คู่ แม่ก็เพิ่งรู้หลังดูรายการพร้อมกับคนอื่น ตกใจ
เหมือนกันนะ เพราะตอนบอกแม่บอกว่าแค่ 20 คู่ เวลามาบ้านก็พกมา 4-5 คู่
สีน้ำตาลหนึ่ง สีดำสอง สีชมพูอีกคู่ เห็นอยู่แค่นี้เลยไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้วมีกี่คู่
กันแน่ จนวันนั้นถึงสารภาพว่า 'ก็มีเยอะจริง ๆ แหละม๊า' "
(รองเท้าYSL)

เด็กขี้อ้อนมักจะอ้อนเพื่อ...
"ถ้าช่วงนี้มาอ้อนแม่จะรู้เลยว่าต้องแอบซื้ออะไรแพง ๆ มาแน่เลย
เหมือนซื้อมาแล้วแต่อ้อนก่อนจะบอก หรือไม่บางทีเขาอยู่บ้านมาทั้งวัน
อยากจะออกไปทำอะไรหรือกินอะไรบ้าง แต่เราเพิ่งกลับเข้ามาเลยอ้อน
ให้ออกไปด้วยกัน บางทีถ้าต้องอยู่บ้านลำพังกับกูมิโฮ (น้องหมาของ
แบมแบม) ก็จะอ้อนให้แม่กลับบ้านเร็ว ๆ 'โอ๊ย...เมื่อไรม๊าจะกลับ'
อย่างโน้นอย่างนี้ คือก่อนไปเก็บตัวเป็นยังไงกลับมาก็ยังเหมือนเดิม
นิสัยไม่เปลี่ยนเลยค่ะ"

เรื่องนี้คุยบ่อยสุด
"เรื่องที่ปรึกษาแม่บ่อย ๆ เป็นเรื่องการแต่งตัว เพราะ
แบมเป็นคนซีเรียสเรื่องผม เรื่องแต่งตัวมาก เขาอยาก
ให้ตัวเองดูดีทุกครั้งที่ต้องเจอกับคนอื่น อย่างเวลา
เดินทางแบมจะบอกว่า 'ม๊ารู้ไหม คนอื่นเขาต้องไปคอย
ที่สนามบินก่อนตั้งกี่ชั่วโมง เพื่อให้ได้เห็นแบมแต่ไม่ถึง
5 นาที' แม่ก็เลยบอกว่า 'ถ้าลูกรู้ว่าคนเขาไปคอยเพราะ
อยากจะเห็นหน้าก็อย่าใส่มาสก์นะ' ก่อนหน้านี้แบม
จึงไม่เคยใส่มาสก์เลย"

ที่มาของส้มตำปูปลาร้าพริกสองเม็ด
"แม่เคยทำร้านอาหารตรงคริสตัลพาร์ค แรก ๆ ก็ให้ลูก ๆ ไปช่วยเสิร์ฟ
หลังเลิกเรียน ทีนี้ทั้งแม่ครัวทั้งพนักงานเสิร์ฟในร้านส่วนใหญ่เป็นคนอีสาน
ซึ่งกินแต่ส้มตำกันเป็นกิจวัตรอยู่แล้ว พอเด็ก ๆ ไปร่วมวงและได้ลอง
ปลาร้าก็เกิดชอบ กระทั่งตอนนี้เวลากลับมาเมืองไทยสิ่งแรกที่แบมทำคือ
ไปกินส้มตำ ลงเครื่องปุ๊บนั่งรถไปเลียบด่วนเลย เพราะแถวนั้นมีส้มตำ
ให้กินตลอด"

ถึงงานจะเยอะแต่ไม่ทิ้งการเรียน
"ตอนนี้เหลืออีกเทอมเดียวแบมก็จะจบ ม.6 แล้วคือช่วงแรก ๆ อาจจะ
เรียนช้าไปหน่อยเพราะเพิ่งเดบิวต์ เลยมีงานเยอะแยะไปหมด แล้วทางต้น
สังกัดก็ไม่ปล่อยให้กลับมาสอบด้วย จนเริ่มเว้นเช่วงถึงขอกลับมาสอบได้
จริง ๆ ต้องจบ ม.6 ตั้งแต่เดือนมีนาฯ ที่ผ่านมาแล้ว แต่เป็นจังหวะ
คัมแบ็กพอดีเลยไม่ได้มาสอบ ก็ต้องดูว่าเดือนสิงหาคมนี้จะมาสอบได้ไหม
ถ้ามาได้ก็จะจบ ม.6 สักทีค่ะ"

Hobby ใหม่ถูกใจแบม
"ล่าสุดตอนนี้แบมกำลังบ้าเล่นโดรนกับการการตัดคลิปวิดีโอ กลับมาบ้านครั้งนี้
ขนโดรนมาเยอะเลย แล้วก็เอาไปทำหายที่ภูเก็ต คือพอเสร็จจากคอนเสิร์ต
มีวันหยุดแค่ 1 วัันเขาก็ชวนเราไปศรีพันวา 'ม๊าไปศรีพันวาเถอะ นาน ๆ จะได้
ไปเที่ยวที' เราก็อุตส่าห์บินไป แต่ปรากฏว่าไม่ได้ไปเที่ยวไหนเลยเพราะ
ต้องไปนั่งหาโดรน คือเขาพาไปแหลมพรหมเทพ เราก็ดีใจว่าวิวสวย แบม
ต้องถ่ายโดรนแน่ ๆ ตอนแรกทุกคนก็ห่วงว่าลมแรงจะบินไหวไหม แต่ไม่ใช่ลม
ที่เป็นปัญหา กลับเป็นเรื่องสัญญาณ เพราะตรงนั้นมีเสาสัญญาณใหญ่ ๆ อยู่
พอบินขึ้นก็คอนโทรลไม่ได้แล้วหายไปเลย พวกเราก็ตามจีพีเอสไปจนถึง
จุดที่คิดว่ามันตก แต่หาเท่าไรก็หาไม่เจอ คุณวุฒิ โฟร์โนล็อก และน้องดีเจ
ที่ไปด้วยกันก็ช่วยหาจนเหงื่อโชกไปหมด ถึงขั้นบอกว่า 'แบม ไอ้ที่หานี่ราคา
เท่าไร เดี๋ยวซื้อให้ใหม่อีกสามตัวเลย ไม่ไหวแล้ว'
"อีกครั้งคือที่กระบี่ เขาคิดไว้แล้วว่าวันที่ไปพีพีต้องเก็บภาพแบบนี้ ๆ นะ แล้ว
ก็เอาโกโปรติดหัวดำลงไปถ่ายปลา ถ่ายปะการัง แต่จากนั้นไม่นานฟ้าก็เริ่มมืด
ฝนจะตก เจ้าหน้าที่ตามให้ขึ้นเรือ แต่แม่กับน้าใส่ชูชีพว่ายกลับไม่ได้ มีแค่น้อง
ตัวเล็ก ๆ คนเดียวช่วยพยุง พอเห็นว่าแบมถ่ายวิดีโอเสร็จเลยบอกให้มาช่วย เขา
ก็ถอดโกโปรบนหัวมาคล้องไว้ที่มือก่อนลากแม่ขึ้นเรือ แล้วโกโปรก็หล่นหาย โห...
เขาหงุดหงิดมาก จะดำหาให้ได้เลย แต่เราไปกับทริปใหญ่ คนอื่น ๆ เมาเรือกัน
แม่เลยบอกว่าแบมต้องสละแล้วละ วันนั้นเขาเสียดายมาก พาไปกินข้าวก็กิน
ไม่ลง แม่ได้แต่บอกว่าอาชีพนี้ไม่รุ่งแล้วละแบม อุปกรณ์หายบ่อยเหลือเกิน"

สิ่งที่แม่ยังห่วง
"สมัยนี้มีไอดอลเกิดขึ้นเกือบทุกวัน ปีหนึ่งเป็นร้อย ๆ คน แบม
จะอยู่ตรงนี้ได้นานแค่ไหนก็ไม่รู้ เลยอยากให้เขามีรากฐานที่ดี พอเขา
เก็บเงินได้ก้อนหนึ่งก็คุยกันว่าจะเอามาทำอะไรเพื่อเป็นฐานต่อไป
ไม่ใช่ว่าได้มาก็ใช้ไป อย่างน้อย ๆ พอกลับมาเมืองไทยจะได้มีอะไรทำ
อย่างร้าน B'chill ก็จะเป็นฐานที่ดีให้กับเขาได้ ต่อไปถ้าสมมุติว่า
ตรงนั้นจบแล้วจะได้มีอะไรให้กลับมาทำ"



เบียร์ - แบงค์ - เบบี้
เมาท์มอยเบา ๆ ประสาพี่น้อง ตัวอยู่ไกลแต่ใจใกล้บ้าน


แบงค์ :
เห็นแบมไปอยู่เกาหลีตั้งแต่เด็ก แต่จริง ๆ พวกเราสนิทกันมาก
เพราะคุยกันประจำ

เบียร์ :
โทร.หากันตลอด

เบบี้ :
ค่าโทรศัพท์ที่บ้านบานเลยค่ะ

แบงค์ :
จริง ๆ แล้วถึงแบมไม่อยู่บ้านก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเราไม่ได้เจอกัน
เพราะเอาเข้าจริงก็มีช่วงเวลาที่พวกเราได้เจอกันบ่อย จนรู้สึกว่าไม่ได้ห่างกันเลย

เรื่องเล่าเวลากลับบ้าน

เบบี้ :
กลับมาบ้านครั้งนี้แบมอยากลองนั่งรถบี้ดู คือเขารู้ว่าบี้มีใบขับขี่แล้ว
และปกติเวลากลับมาบ้านจะไม่มีโอกาสได้นั่งรถที่บี้ขับเลย จนครั้งนี้เจอกัน
เขาอยากให้บี้ขับ ซึ่งพอได้นั่งเท่านั้นแหละ คือบี้เป็นคนที่ขับรถได้น่ากลัวมาก
แบมบ่นตลอดทางเลยว่าอย่าขับเร็วได้ไหม กลัวจริง ๆ นะ มีความแอบป๊อด
นิดหนึ่งค่ะ

แบงค์ :
จริง ๆ บ้านนี้ขับเร็วทุกคน แต่ส่วนใหญ่แบมจะนั่งรถแบงค์ นั่งรถ
คนอื่นไม่ค่อยได้ เพราะรถแบงค์เครื่องแรงและลำโพงดี แบมเลยติดเป็นพิเศษ
เวลาไปไหนด้วยกันเขาจะบอกเลยว่า นั่งรถแบงค์นะ

เบียร์ :
เพราะแบมเป็นคนที่ชอบฟังเพลงตลอด

เบบี้ :
ล่าสุดมาไทยก็มีลำโพงติดตัวมา เป็นกล่องมีสายห้อย หิ้วไปด้วย
ทุกที่ คือไม่ใช่อะไรนะ ลำโพงในรถก็มีไง จะเอาลำโพงมาเปิดในรถเพื่อ?!?!

ไม่ชอบแกล้งแต่ชอบอำ

เบียร์ :
ปกติบ้านเราไม่ค่อยแกล้งกันนะครับ แต่ผมจะชอบเล่าเรื่องผีให้เขาฟัง
(ยิ้ม) ไม่ได้อำนะ แต่จะเล่าว่าไปเจออะไรมาหรือมีเรื่องโน้นเรื่องนี้น่าสนใจมาเล่า
พอน้องฟังก็จะกลัว เลยไม่เคยเล่าจบสัักเรื่อง แบมจะบอกพอ! เลิก! ก่อนทุกที

แบงค์ :
แต่คนอื่น ๆ ในบ้านไม่ค่อยกลัวผีนะ ผมยิ่งไม่กลัวเลย ไม่ค่อยเชื่อ
เรื่องพวกนี้ด้วย สามารถอยู่ในบ้านมืด ๆ คนเดียวได้สบาย ๆ

เบียร์ :
ผมก็ไม่ค่อยกลัวครับ ชอบฟังอะไรพวกนี้ด้วย อย่างมีรายการหนึ่ง
เป็นตอนพิเศษให้คำปรึกษาเกี่ยวกับเรื่องผี ซึ่งฟัง ๆ ไปแล้วน่ากลัวมากเพราะ
จะมีเสียงแปลก ๆ ให้ได้ยิน ผมก็ส่งให้แบมเลย พอฟังจบเขาก็จะโทร.มา
โวยวายใหญ่ว่านอนไม่หลับแล้ว (หัวเราะ)

แบมแบมในมุมมองของพี่น้อง

เบียร์ :
ผมชื่นชมเขามากที่สามารถผ่านอะไรต่าง ๆ มาได้ด้วยตัวเอง อย่างการ
ไปเกาหลีเองตั้งแต่เด็ก ต้องปรับตัวสารพัด ซึ่งเรารู้ว่าแรก ๆ น้องหนักมาก
เพราะภาษาน้องก็ยังไม่ได้ วัฒนธรรมที่แตกต่าง หลายอย่างครับ

แบงค์ :
แบมมีความพยายามมากครับ อย่างผมเองก็สู้เพื่อชีวิตของตัวเอง
ทั้งเรื่องงานและทุกสิ่งทุกอย่าง ส่งเสียตัวเองเรียนมาตั้งแต่มัธยมปลาย เลย
รู้ว่าการสร้างอะไรเป็นของตัวเองสักอย่างยากมาก แต่แบมเขาทำได้และ
ทำหนักกว่าเราอีก

เบบี้ :
อีกอย่างแบมมีความอดทน เพราะกว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ต้องฝ่าฟันอะไร
มากมาย ต้องรับทั้งคำชื่นชมและกระแสดราม่าต่าง ๆ ไหนจะมีคนแอนตี้อีก
คือเขาต้องรับมือกับหลาย ๆ อย่าง อีกอย่างการไปอยู่ที่โน่นเพียงลำพังตั้งแต่เด็ก
เขาต้องปรับตัวและฝึกฝนทั้งเรื่องวัฒธรรม ภาษา อะไรหลาย ๆ อย่าง

แบงค์ :
ที่สำคัญผมมองว่าแบมเป็นคนฉลาด วางแผนเก่ง เขามองอนาคต
ของสิ่งที่ทำได้ค่อนข้างไกล เพราะแบมมักจะคุยกับผมเสมอว่าเขาวางแผน
การเป็นศิลปินอย่างนี้ ๆ เพื่อให้ได้แบบนี้ ๆ เหมือนเขาอ่านออกหมดว่าต้องแลก
อะไรเพื่อให้ได้อะไรในอนาคต

สิ่งนี้ที่อยากให้ดูแล

แบงค์ :
สุขภาพและสุขภาพจิตครับ

เบียร์ :
ใช่ เขาไม่ค่อยมีเวลาพักผ่อน แล้วไหนจะต้องมารับแรงกดกดันจากคนรอบข้างอีก

เบบี้ :
คือแบมเป็นคนคิดมากคนหนึ่ง ชอบเก็บทุกอย่างมาคิดตลอดเวลา
เลยอยากบอกแบมว่า ตอนนี้ที่แบมทำมาทั้งหมดโอเคแล้ว ถ้าเหนื่อยก็พักบ้าง
ปรึกษาคนในครอบครัวบ้างก็ได้ ไม่ต้องเก็บทุกอย่างไปกดดันตัวเองคนเดียว
อยากให้พักผ่อนบ้าง เพราะเขาไม่ค่อยได้พักผ่อนเลยจริง ๆ ค่ะ









via. _happypills97

เบียร์ - ศรัณย์ชัย ภูวกุล พี่ชายคนโต
"ด้วยความที่ผมเป็นคนแก่น ๆ เวลาอยู่กับแบมก็จะออกไปแนว
แมน ๆ เฮ้ว ๆ อาจจะคุยกันเรื่องแฟชั่นบ้าง เพราะผมก็ชอบแต่งตัว
และซื้อเสื้อผ้าเหมือนกัน อย่างช่วงนี้มีร้านไหนสวย ตอนนี้เทรนด์ใหม่
เป็นยังไง แบมก็จะชอบมาถาม เฮ้ย! ตอนนี้ที่ไทยฮิตไรกัน มีเทรนด์
เกี่ยวกับคำพูดวัยรุ่นอะไรแปลก ๆ ไหม จะได้เอาไปใช้เวลาขึ้นคอนเสิร์ต
ประมาณนั้น

"การเป็นพี่ชายไอดอลก็มีผลต่อสุขภาพจิตนิดหน่อยครับ (หัวเราะ)
อย่างบางทีจะมีคนเข้ามาหาแบบแปลก ๆ ที่น่ากลัวเลยคือเคยโดน
สะกดรอยตามตั้งแต่ออกจากบ้านไปจถึงที่ทำงานแล้วถ่ายรูปลง
โซเชียลเป็นระยะ พอแฟนคลับแบมเห็นก็แค็ปรูปมาให้ เตือนเราว่า
เหมือนกำลังถูกตามอยู่นะ คือน่ากลัวมาก แต่ไม่รู้ว่าเขาคือใคร"

แบงค์ - ชินดนัย ภูวกุล พี่ชายคนรอง
"ผมกับแบมมีไลฟ์สไตล์ที่เหมือนกันชอบเรื่องเอ็นเตอร์เทนหรือบันเทิง
เป็นหลักเลยคุยกันบ่อย อย่างตอนนี้แบมชอบตัดต่อวิดีโอก็จะคุยเรื่อง
โปรเซสของการทำคลิปและเทคนิคต่าง ๆ นอกจากนี้ก็มีเรื่องเต้นทั้งของ
ศิลปินไทยและยุโรปหรือนักเต้นชื่อดัง เพราะเราสองคนยังทำงานด้านนี้อยู่
นอกจากนี้เรื่องเสื้อผ้าก็มีความชอบที่คล้ายกัน ใส่รองเท้าคล้าย ๆ กัน
เขาก็จะถามบ่อย ๆ ว่าพี่แบงค์รุ่นนี้รุ่นนั้นเป็นยังไงบ้าง

"พอแบมกลายเป็นศิลปินมีคนรู้จักก็ทำให้ชีวิตพวกเราเปลี่ยนไปด้วย
อย่างผมเป็นครูสอนเต้นมาก่อนก็พอมีคนรู้จักอยู่บ้างจากงานของเรา
แต่ทุกวันนี้กลายเป็นว่ามีคนมาติดตามเยอะขึ้น ซึ่งถ้ามองในแง่ของกระแส
สำหรับผมถือว่าเป็นเรื่องดีที่เวลาเราทำอะไรก็มีคนเห็นเยอะขึ้น แต่
ข้อเสียก็ทำให้เราได้คุยกับเพื่อนในโซเชียลน้อยลง"

เบบี้ - หทัยชนก ภูวกุล น้องสาวคนเล็ก
"ด้วยความที่เป็นพี่ชายกับน้องสาว บี้กับแบมจึงไม่ค่อยมีไลฟ์สไตล์ที่เหมือนกัน
ส่วนมากเวลาคุยกันก็เป็นอารมร์พี่ชายคุยกับน้องอีกอย่างตอนนี้บี้เรียนอยู่ปี 2
จึงพักอยู่ที่หอ ทุกครั้งที่แบมกลับมาบี้มักจะติดเรียนตลอดเลยไม่ค่อย
ได้เที่ยวด้วยกัน เวลาเจอกันแบมก็จะถามว่า 'เป็นไงบ้าง เรียนหนักไหม' แล้ว
ก็ชอบถามว่า 'มีแฟนหรือยัง มีคนมาจีบหรือเปล่า' คือแอบมีหวงน้องสาวเหมือนกัน
และด้วยความที่เราโสดเขาก็จะบอก 'ทำไมไม่มีแฟนสักที' (ยิ้ม) เอาเข้าจริง
บี้ก็เป็นเหมือนน้องชายอีกคนของบ้านไปแล้ว เพราะเป็นน้องสาวคนเดียวออกจะแมน ๆ
หน่อยค่ะ

"พอคนรู้ว่าเราเป็นน้องสาวแบมก็มีทั้งเรื่องดีและไม่ดีนะคะ อย่างเวลา
อยู่ที่ชมรมก็ทำให้เราสามารถกระจายข่าวสารได้ดีขึ้น เพราะจะมีรุ่นน้อง
ที่ชอบ GOT7 อยู่ แต่ข้อเสียคือเรื่องความเป็นส่วนตัว เพราะ
บางคนติดตามเราทางอินสตาแกรมก็จะคิดว่าบี้เรียบร้อย เพราะเห็น
แต่ภาพพอมาเห็นเราอยู่กับเพื่อน เป็นกันเองเล่นโน่นนี่ ก็เมาท์ว่า
'เฮ้ย! ไม่เห็นเรียบร้อยเหมือนในไอจีเลย' คือคิดกันไปเองทั้งนั้นค่ะ"

 (บทสัมภาษณ์พิมพ์ทั้งหมดตามจาก e-magazine)
via. bam502, ma_praw



http://www.instagram.com/p/BZnp6uwFNbZ/
http://www.facebook.com/sudsapdafanclub/BamBam


Behind the Scene แบมแบม หน้ากล้องมืออาชีพ หลังกล้องน่าเอ็นดู

ก่อนที่จะกรีดร้องกับรูปเล่มที่กำลังจะถึงมือ สุดฯ เชื่อว่าเหล่าอากาเซ่หลายคนอยากรู้ว่าบรรยากาศวันนั้นเป็นยังไง ก็เลยจะเอามาเม้าท์มอย เล่าให้ฟังสักหน่อย บอกเลยว่า แบมแบม GOT7 มีความเป็นมืออาชีพสูงมาก เก่ง และทำให้การทำงานในวันนั้นราบรื่นสุดๆ

 

Behind the Scene แบมแบม

 

เรานัดกันที่สตูดิโอแห่งหนึ่งย่านลาดพร้าว แบมแบมมาถึงก่อนเวลานัดนานพอสมควร มาถึงก็ยกมือสวัสดีทีมงานอย่างนอบน้อมแล้วพุ่งตัวเข้าไปยังห้องแต่งตัว เพื่อเตรียมแต่งหน้า-ทำผมทันที แบมแบมมาพร้อมกับลำโพงคู่ใจ แต่งหน้าไปก็ขอเปิดเพลย์ลิสต์ฟังไปสักหน่อยเพื่อบิลท์อารมณ์

ใช้เวลาประมาณเกือบหนึ่งชั่วโมงก็เสริมหล่อเรียบร้อย สไตล์ลิสท์จัดชุดแรกให้แบมเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว พร้อมเข้าฉาก แบมดูเรฟเฟอเรนซ์จากช่างภาพแว้บเดียว แล้วก็โพสท์ท่าทันที แถมโพสท์แบบไหลลื่นสุดๆ เราได้ยินเสียงช่างภาพของเราพูดว่า “ดี! ดี! ดี!” สลับกับเสียงกดชัตเตอร์แบบรัวๆ ใช้เวลาไม่กี่นาทีก็ได้ภาพที่ถูกใจ พร้อมเปลี่ยนชุดต่อไปทันที ตอนนี้ทีมสัมภาษณ์เริ่มยิ้มออก เพราะดูแล้ว เวลาที่ทางค่ายให้มาน่าจะเหลือพอสำหรับสัมภาษณ์แบบชิลๆ เลย

แบมแบม

ระหว่างถ่ายไป แม้จะไม่ได้ฟังเพลงในเพลย์ลิสต์ของตัวเอง แต่เพลงที่ทีมงานเปิดเพื่อสร้างบรรยากาศก็ดูจะถูกใจน้องอยู่ไม่น้อย เพราะถ่ายๆ ไปน้องก็ฮัมเพลงบ้าง ขยับตัวตามจังหวะบ้าง เรียกว่าอารมณ์ดีทีเดียว ทำให้บรรยากาศการทำงานที่ตอนแรกเราคิดว่าน่าจะเกร็ง เพราะทีมงานจากทาง JYP ก็มาร่วมชมการทำงานหลายคน กลับชิลๆ สบายๆ ไปเลย

ผ่านไปประมาณครึ่งทาง ใกล้เวลาพักแล้ว สไตลิสท์ก็เลยถามแบมแบมว่าหิวไหม อยากจะพักกองก่อนหรือเปล่า แต่เจ้าตัวบอกด้วยเสียงอารมณ์ดีว่า “ไม่เป็นไรครับ ผมทานมาเรียบร้อยแล้ว” แล้วก็พร้อมเปลี่ยนชุดต่อไปเพื่อถ่ายทันที ทางเราเลยถามทีมงานฝั่งเกาหลีว่า ถ้าถ่ายเซตแฟชั่นหมดแล้ว พักกลางวันกันก่อนไหม เสร็จสรรพตกลง ก็เลยสั่งเมนูโปรดของแบมแบมอย่าง ส้มตำปูปลาร้าพริก 2 เม็ด พร้อมไก่ย่าง ข้าวเหนียว มาให้หนำใจในฐานะที่ทำตัวน่ารัก และถือว่าเป็นมื้อแซ่บมื้อแรกที่แบมแบมมาเหยียบเมืองไทยรอบนี้

แบมแบม

ทีมงานเจวายพีกระซิบกับเราว่า น้องชอบกินปลาหมึกไข่ย่าง แน่นอนว่าสุดฯ ไม่รอช้า ใช้บริการพี่วินบึ่งไปตามหารถเข็นขายปลาหมึกพร้อมน้ำจิ้มแซ่บมาเสิร์ฟทันที พอปลาหมึกถึงมือ แบมมีความตื่นเต้น ขอบคุณทีมงาน พร้อมบอกว่า “ผมชอบกินอะไรพื้นๆ ครับ” ทางเราก็เลยตอบกลับไปว่า “นี่แหละค่ะ รถเข็นเลยค่ะน้อง” ทำให้แบมหัวเราะอารมณ์ดี พร้อมแอบจิ้มปลาหมึกย่างหอมๆ เข้าปาก ก่อนจะวิ่งกลับเข้าไปถ่ายเซตต่อไป

ระหว่างการถ่ายทำ แบมแบมเดินมาเช็คที่หน้าจอตลอด ช่วยครีเอทท่าโพสท์ ถึงขั้นนั่งข้างๆ ช่างภาพแล้วออกความเห็นว่าควรโพสท์ยังไง ชอบแบบไหน เรียกว่าไม่ได้แค่ทำหน้าที่เป็นนายแบบเท่านั้น แต่ยังมีส่วนร่วมในกระบวนการอื่นๆ ด้วย และพรีเซ้นท์เสื้อผ้าออกมาได้ดีจริงๆ นี่สินะ วิถีไอดอลเกาหลีที่มีความเป็นมืออาชีพสุดๆ ติดอยู่นิดเดียวถ้าจะเห็นว่าแต่ละเซตเขาดูไม่ค่อยยิ้ม เพราะเราลองให้แบมแบมยิ้มแล้ว ความเท่มลายหายไปหมด เหลือแต่ความตะมุตะมิ ก็เลยลงความเห็นว่าทำหน้านิ่งๆ แบบเดิมนี่แหละเวิร์คสุด

แบมแบม

หลังจบการถ่ายเซตแฟชั่น เราเบรคกองเบาๆ เพื่อเติมอะไรลงท้อง ก่อนที่จะถ่ายเซตสัมภาษณ์ต่อ แบมแบมบอกกับทีมงานว่า “ขอแค่ 15 นาทีครับ” จนทีมงานอยากบอกไปว่า ไม่ต้องรีบลูก เวลาเหลือเยอะ หลังจบมื้อกลางวัน ทีมงานยังคงทานข้าวกันอยู่ แบมแบมก็เลยไปที่หน้าจอคอมพ์ แล้วกดเลือกภาพที่ชอบเงียบๆ พร้อมกับถ่ายเก็บไว้เป็นที่ระลึก (เป็นที่มาของภาพทั้งหลายที่เขาอัพลงอินสตาแกรมนี่แหละ)

แบมแบม

ทีมงานพร้อมสำหรับเซตต่อไป แบมแบมพร้อมเปลี่ยนชุด แต่แค่ช่วงเวลาแว้บเดียวที่สไตล์ลิสท์ไปคุยงาน เมื่อแบมรู้ว่าชุดที่ต้องใส่ต่อไปคือชุดไหน เขาก็คว้าชุดนั้นเข้าห้องเปลี่ยนเองเสร็จสรรพโดยไม่ต้องรอใครมาช่วยเปลี่ยน เป็นเรื่องราวน่ารักๆ ที่เราไม่คิดว่าศิลปินเกาหลีจะทำตัวง่ายๆ เบอร์นี้ สรุปว่าทั้งการถ่ายแฟชั่นและเซตสัมภาษณ์ผ่านไปอย่างราบรื่นแบบสุดๆ รวมถึงช่วงสัมภาษณ์ที่ทั้งแบมแบมและทีมงานให้ความร่วมมือดีมากๆ ทั้งยังตอบคำถามแบบไม่มีกั๊ก จนเราได้บทสัมภาษณ์ดีๆ ยาวเป็นสิบหน้า

แบมแบม

ติดตามแฟชั่นสวยๆ พร้อมบทสัมภาษณ์ของแบมแบม GOT7 ได้ในนิตยสารสุดสัปดาห์ ฉบับเดือนตุลาคม 2560 และอย่าลืมไปกดดูคลิปเบื้องหลังน่ารักๆ ที่ Facebook Fanpage : สุดสัปดาห์แฟนคลับ กันนะจ๊ะ

 

TEXT : Ploychompoo

http://www.sudsapda.com/men/behind-scene-bambam/
http://www.sudsapda.com/men/bambam-proud-tobe-thai/
http://www.sudsapda.com/men/bambam-got7/
http://sudsapda.com/top-lists/78475.html




http://twitter.com/naiin/status/913332259846995968

https://www.instagram.com/p/BZnAqe8l4xJ/

https://www.instagram.com/p/BZlEcELFpb1/

https://www.instagram.com/p/BZkdAhRlbhK/

http://www.instagram.com/p/BZiZMa6FBc9/

http://www.instagram.com/p/BZh3R-HlofT/

http://www.instagram.com/p/BZdLLqsliFa/

http://www.instagram.com/p/BZcmV6MlNxO/

http://www.instagram.com/p/BZf6Tn_FwUO/

http://www.instagram.com/p/BZfShHgFgkL/

http://twitter.com/sudsapda/status/903095525242683392

http://twitter.com/sudsapda/status/911157859601096709

http://twitter.com/sudsapda/status/912571483829952512

















http://www.instagram.com/p/BX4zcWthcz4/


http://www.instagram.com/p/BWhgG9YgoUC/


Jul 14, 2017

ติดตามแฟชั่นสวยๆ พร้อมบทสัมภาษณ์ของแบมแบม GOT7 ได้ในนิตยสารสุดสัปดาห์
ฉบับเดือนตุลาคม 2560 และอย่าลืมไปกดดูคลิปเบื้องหลังน่ารักๆ
ที่ Facebook Fanpage : สุดสัปดาห์แฟนคลับ กันนะจ๊ะ

TEXT : Ploychompoo

 

 

-->
<--



บทความอื่นๆที่เกี่ยวข้อง